สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่กลายเป็นบทสอบสำคัญของรัฐบาลอนุทิน ทั้งด้านภาวะผู้นำ ระบบบัญชาการหลายศูนย์ และแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองที่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล
อาการที่ “ผู้นำ-ตาลอย” “รัฐมนตรี-ตาแข็ง” ใส่สื่อ
บ่งบอกถึงสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติของ “รัฐบาลลูกเทพ” ที่นับวันยิ่งบ่งชี้ศักยภาพการบริหารประเทศ ในยามวิกฤติมหันตภัย บ่มิไก๊
โดยเฉพาะ ภาวะผู้นำ ของ “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล วันนี้ไม่เหลือแล้วซึ่งสง่าราศรี “นายกรัฐมนตรี คนที่ 32” ที่หวังจะสืบทอดอำนาจไปอีก 4 ปี
ในวันที่ “ฟ้า-ดิน” เป็นใจ ทำอะไรก็ถูก ก็ดีไปหมด แต่มาในวันที่ “ฝน-ฟ้า” ไม่เป็นใจ ทำอะไรก็ผิดไปหมด
มหาวิกฤติน้ำท่วมหาดใหญ่ สะท้อนให้เห็นชัดถึงความล้มเหลวของ ระบอบรัฐราชการรวมศูนย์ แบ็กอัพ รัฐบาลเซราะกราว
แม้ นายกฯหนู จะบินไป-กลับกรุงเทพ-หาดใหญ่ กันถี่ยิบ ตั้งทีมส่วนหน้า ส่วนกลาง บูรณาการ-บูรณากู บัญชาการกันจนอลหม่าน ข้าราชการ ฝ่ายปฏิบัติ ไม่รู้จะฟังใครดี
ระบบ “มัลติคอมมานด์” ล่มสลาย

จนผ่านไปเป็นสัปดาห์ รอพระพิรุณทรงโปรดฯ เทวดาไม่เทฝนลงมากระหน่ำซ้ำอีก น้ำทะเลไม่หนุน ที่ท่วมอยู่ก็ค่อยๆลดระดับลง
แต่ต้องเตือน นายกฯหนู โปรดฟังอีกครั้ง นี่ยังแค่ช่วงต้นมรสุมภาคใต้ ซึ่ง พายุ-มรสุม จะเข้าเต็มๆ ก็ช่วงกลางๆธันวาคม ไปจนถึงมกรา-กุมภาโน่น ดังนั้นรัฐบาลอย่าเพิ่งเบาใจว่าสถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว
ที่สำคัญที่สุดคือการฟื้นฟู เมืองเศรษฐกิจอันดับ 1 ในภาคใต้ รัฐบาลต้องเตรียมรับมือให้พร้อม จะฟื้นซากปรักหักพัง รถราที่ถมทับกันกองพะเนิน ย่านเศรษฐกิจสำคัญๆ จะพลิกฟื้นขึ้นมายังไง โดยเฉพาะปัญหาหน้ีสินครัวเรือนที่จะพุ่งทะยานแน่ๆ
นายกฯหนู และทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ต้องอัดฉีดให้มีประสิทธิภาพ
นี่ยังไม่นับรวมคิวแปร่งๆ อาการขบเกลียวกันในพรรคร่วมรัฐบาล กับคำสั่งแต่งตั้ง “ผู้กอง” ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรมว.เกษตรฯ ไปเป็นผู้บัญชาการสถานการณ์น้ำส่วนหน้า ที่ทับซ้อนกับอีกหลายคณะ
ตามวาระซ่อนเร้น เกมชิงแต้ม-ชิงตั๋วพิเศษ กลซ่อนมีดของ ผู้นำ-ผู้กอง
วิกฤติเชื่อมั่นรอบนี้ ทำเต็งจ๋า นายกฯคนที่ 32/2 เสียรังวัดไปบานโข
การบริหารแบบไม่บริหาร ปัดภัยแค่ให้พ้นตัว เป็นถึงนายกฯนั่งควบรมว.มหาดไทย กำกับดูแลข้าราชการฝ่ายปฏิบัติทั้งระบบ แต่ก็ยังโยนภาระให้คนโน้น คนนี้ ไปบัญชาการแทน
บ่งบอกถึงความเข้มแข็งภายในตัวผู้นำ ในยามทีเด็ดที่ขาด จิตยังไม่แข็งพอ แม้จะทุ่มเทงบไปมหาศาลกับ ทีมอีเว้นท์ปั้นภาพ นายกฯนั่งซัดข้าวกล่องกันบน ฮ.
แต่มุมภาพ และแสงเงา มันช่างเป๊ะ เฉกเช่นซีนอีเว้นท์ระดับชาติ
ต้องรอดูว่ากับ 8 มาตรการเยียวยาเร่งด่วน
1.พักหนี้ พักเงินต้น พักดอกเบี้ย รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นเวลา 1 ปี
2.ให้เงินกู้ยังชีพและประกอบอาชีพ 1 แสนบาท ไม่มีดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน
3.ให้เงินกู้ซ่อมแซมที่พักอาศัย 1 แสนบาทไม่มีดอกเบี้ย เป็นเวลา 1 ปี
4.ให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ จ่ายชดเชยความเสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัย
5.ให้สำนักงานประกันสังคม “จ่ายชดเชยสูงสุดทุกกรณี” แก่ผู้ประกันตน
6.จ่ายเงินชดเชยแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 2 ล้านบาท
7.ช่วยผู้ประกอบการ SMEs เป็นกรณีพิเศษ
8.สนับสนุนมาตรการภาษี จัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจที่หาดใหญ่ และพื้นที่ประสบภัย
8 มาตรการนี้ จะช่วยกระตุกเรตติ้ง รัฐบาล“นายกฯหนู” ได้แค่ไหน
และแม้จะฟื้นเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นมาได้ ก็ยังไม่รู้ว่าจะกลบกระแส “อ่อนหัดจัดการน้ำท่วม” ได้หรือไม่
ในภาพรวมทางการเมือง รัฐบาลภูมิใจไทย ยังไม่ถึงขั้นโคม่าร่อแร่ เพราะยังไงก็ถือแต้มต่อ ของขลัง-พลังพิเศษ หลังเลือกตั้งแบเบอร์
เพียงแต่ “อนุทิน” และขุมข่ายสีน้ำเงิน ปั่นผลงาน “ไม่ฟู” อย่างที่หวัง
ทำดุลอำนาจ 2 น. วูบไหว เสียงชักจะไม่ดังเหมือนเดิมแล้ว
ดีไม่ดี จะพาแก๊งบ้านใหญ่ จมหายไปกับน้ำ ซะงั้น..


