ทุกสงครามมีราคาที่ต้องจ่าย

วันรัฐธรรมนูญ 10 ธ.ค. เวียนมาบรรจบอีกปี

เท่ากับว่าประเทศไทย เปลี่ยนแปลงการปกครองมาแล้ว 93 ปี แต่สภาพการเมืองไทยก็ยังลุ่มๆ ดอนๆ ไร้ความเข้มแข็ง โดยเฉพาะในห้วงเวลากว่า 2 ทศวรรษมานี้ การเมืองไทยยังคงวนลูป ไม่ไปไหน ติดกับดักซ้ำซาก

ยิ่งในรอบปีนี้ พี่น้องคนไทย ต้องเจอสถานการณ์วิกฤติอยู่หลายรอบ ทั้งการเปลี่ยนรัฐบาล ด้วยนิติสงคราม การเปลี่ยนตัว นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ นายเศรษฐา ทวีสิน มาเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ครบปี ก็เปลี่ยนมาเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล

เป็นนิติสงครามตามพล็อตที่วางไว้เป๊ะ

พี่น้องคนไทยยังเจอภัยธรรมชาติกันมาตั้งแต่ต้นปี แผ่นดินไหวใหญ่ ไล่มาจนถึงมหาอุทกภัย โดนกันถ้วนหน้า เหนือ – อีสาน – กลาง – ใต้

รวมถึงภัยที่ธรรมชาติไม่ได้สร้าง แต่เป็นความกระสันอยากของมนุษย์ที่สร้างเอง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คุกรุ่นมาตั้งแต่ต้นปี มาทะลุกจุดเดือนเอาตอนผ่านช่วงครึ่งปีหลัง มาจนถึงบัดนี้

ย่างเข้าสู่ช่วงเดือนแห่งความสุข เดือนแห่งการเฉลิมฉลอง ธันวาคม เป็นธรรมชาติของคนไทย ที่พี่น้องคนไทยตั้งตารอนับถอยหลังเทศกาลเฉลิมฉลอง

แต่ปีนี้รู้สึกกร่อยไปถนัดใจ เพราะประเทศไทยยังอยู่ในโหมดการรบพุ่งกับเขมรสองพ่อ-ลูก ตระกูลฮุน ที่ยังคุ้มคลั่งกระหายเลือด

การเจรจาสันติภาพ ถูกลั่นดาลไปโดยอัตโนมัติ แต่สถานการณ์จะพัฒนาไปแบบฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งราบคาบ หรือจะยืดเยื้อต่อไป ยังต้องติดตามกันต่อไป

ส่วนคนที่ได้แน่ๆ คือ “เสี่ยหนู” อนุทิน และพวก ที่ก่อนหน้านี้ออกอาการ เมาน้ำ โดนภัยน้ำท่วมหาดใหญ่ ซัดเอาเจียนอยู่เจียนไป

แล้วสงครามไทย-กัมพูชา ก็มาแบบพอเหมาะพอเจาะ ให้ นายกฯหนู ฉวยโอกาสเกาะกระแสชาตินิยม จนออกอาการคึกคักเป็นพิเศษ ซึ่งกระแสนี้น่าจะอยู่ไปอีกระยะ พอมีเวลาให้รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยได้ตั้งตัว

แต่สงครามทุกสงคราม มีราคาที่ต้องชดใช้

ผลระยะยาวยังต้องมารรอประเมินอีกที โดยเฉพาะกับเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ที่ชาติมหาอำนาจจ้องจะขย้ำเหยื่ออยู่ทุกนาที

แม้อารมณ์คนไทยอยากให้ เจ็บแล้วจบ กันในรอบนี้ เราก็ยังไม่รู้จะจบแบบ Happy Endding หรือเปล่า

ก็อย่างที่ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าค่ายส้ม เตือนสติเสนอให้ รัฐบาลนายอนุทิน Endgame ระบอบฮุน เซน เปิด 3 แนวรบ จบปัญหาถาวร คือ 1.แนวรบทางทหาร 2.แนวรบด้านข่าวสาร

ที่สำคัญที่สุดคือแนวรบที่ 3.เอาโลกล้อมกัมพูชา ด้วยการเดินหน้าปราบสแกมเมอร์ ขุดรากถอนโคนขบวนการสแกมเมอร์ ที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ให้กับระบอบฮุน เซน และต้องขยายผลให้ถึง ตัวเอ้ชาวไทย

แต่ดูทรงแล้ว “เสี่ยหนู” ไม่กล้าลุยสุดซอย เพราะหยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ เอาแค่เริ่มต้นสงครามรอบใหม่นี้ ก็โดนมุกเดิม จิ้งจอกเฒ่าขแมร์ เข้าบ้างแล้ว

ปล่อยคลิป “เสี่ยหนู” ควงเมีย “มาดามจ๋า” ธนนนท์ นิรามิษ ร่วมวงดินเนอร์กับ บัน สเร มอม ผู้ว่าฯจ.ไพลิน ของกัมพูชา

ซึ่ง จ.ไพลิน ถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ที่อยู่ติดกับชายแดนไทย ด้าน จ.จันทบุรี-ตราด เป็นแหล่งที่ตั้งของบ่อนกาสิโน, ท่าเรือน้ำลึก, ด่านชายแดน แหล่งผลประโยชน์มหาศาล

แม้คนในรัฐบาลจะออกมาแก้ต่างว่าเป็นภาพเก่าในอดีต สมัยที่ยังไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าจากภาพในคลิปที่เผยแพร่ออกมา “มีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษ”

เรื่องนี้มีอะไรในกอไผ่หรือไม่ คอการเมืองอย่างเรา คงต้องติดตามใส่ใจ ความเคลื่อนไหวของจิ้งจอกเฒ่าฮุน เซน

จะปล่อยคลิป หรือข้อมูล ออกมาแบล็กเมล์เพิ่มเติมหรือไม่ เชื่อว่าคงไม่มีแค่นี้แน่

พี่น้องคนไทย โปรดอดทนรอด้วยใจระทึกพลัน..!

ไชยชนกยันแม่ไม่ได้ผิด PDPA หลังโพสต์ข้อมูลคู่กรณีจากการแจ้งความต่อสื่อ

โปรดเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา พ.ศ. 2568