เลือกตั้งเละ..กก.ไม้หลักปักขี้เลน

ถ้าไม่มีสถานการณ์พิเศษแทรกซ้อน ประชาชนคนไทยผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง จะได้เข้าคูหากันในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569

ตามที่ประชุมคณะกรรมการ กกต. มีมติเห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้ง สส. กำหนดให้วันที่ 8 ก.พ.2569 เป็นวันเลือกตั้ง โดยจะเปิดรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต ในวันที่ 27 – 31 ธ.ค. และเปิดรับสมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ ในวันที่ 28 – 31 ธ.ค. (เฉพาะพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งแล้วเท่านั้น) และให้พรรคการเมืองแจ้งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี

ณ ตอนนี้ พรรคการเมืองที่คึกคักสุดขีดคลั่ง ไม่มีใครเกิน ภูมิใจไทย

กลุ่มก๊วนบ้านใหญ่ บ้านเล็ก-บ้านน้อย ต่างตบเท้าไหลรวม ซบชายคาค่ายสีน้ำเงิน

แต่ที่เลือดไหลโจ้กไม่ยอมหยุดก็ เพื่อไทย มุ้งเล็กมุ้งน้อยเริ่มแตกกระสานซ่านเซ็น สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีตสส.อุบลราชธานี, อรรถพล วงษ์ประยูร – ขุนทอง แสนวิเศษ อดีตสส.สระบุรี, เกรียงไกร กิตติธเนศวร อดีตสส.นครนายก, นรากร นาเมืองรักษ์ อดีตสส.ร้อยเอ็ด รีบสละเรือลำเก่าไปขึ้นเขากระโดงเรียบร้อย

ที่แสบไส้ติ่งสุด ๆ ก็ “นายกฯเบี้ยว” กฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีธัญบุรี เททิ้ง“นายใหญ่ ทักษิณ” จูงลูกชาย มนัสนันท์ หลีนวรัตน์ อดีตสส.ปทุมธานี โผซบพรรคคู่แข่ง

ทำเอา “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ดี๊ด๊าได้ใจ ประกาศด้วยความมั่นใจ เลือกตั้งรอบนี้พรรคภูมิใจไทย เลิกถ่อมตัว จากที่เป็นพรรคขนาดกลาง ขอขึ้นลิฟต์พาสชั้นเป็นพรรคอันดับ 1 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ก็สมแล้ว ไล่กวาดต้อนบ้านใหญ่-บ้านเล็ก ไพร่ราบ-พลเลว มาไว้เต็มคอกซะขนาดนั้น แถมกระสุนดินดำยังมีล้นคลังเสบียง ที่สำคัญพลังอำนาจ ลมใต้ปีก ที่พร้อมจะช่วยขจัดปัดเป่าอุปสรรคขวากหนามให้ทุกอย่าง ถ้าไม่หวังขนาดนั้นก็ถือว่าเสียของ

แต่มีหรือที่พรรคดีเอ็นเอนายใหญ่ จะยอมโยนผ้าขาว เพิ่งจัดกิจกรรม “ยกเครื่องประเทศไทย เพื่อไทยทำได้” เปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ บุตรชาย สมชาย – เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ชูภาพลักษณ์นักวิชาการคนรุ่นใหม่ ที่เคยทำวิจัยด้าน Brain-Computer Interface (BCI) หรือการเชื่อมต่อสมองกับคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยเหลือคนพิการที่ร่างกายขยับไม่ได้ แต่สมองยังทำงาน

จากบทเปิดตัวครั้งแรกบนเวทีการเมือง นับว่าทำการบ้านมาดี จังหวะจะโคนการพูดจาถือว่าสอบผ่าน ซึ่งเพื่อไทยก็วางตัวไว้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 1

ตามด้วย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.เลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นักการเมืองจอมเก๋า ที่ขึ้นหิ้งมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย และ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค ที่ครองพรรษาสส.มาหลายสมัย

น่าสนใจการจัดวางตัวแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย ที่รอบนี้ไม่มีสายตรงชินวัตร(บ้านจันทร์ส่องหล้า) เพราะถูกมองว่าเป็น สายล่อฟ้า แต่ไม่มีซะเลยก็ไม่ได้ จึงต้องจัดวางตัว ยศชนัน ลูกชาย “เจ๊แดง” ไว้ในลิสต์ลำดับที่ 1

เป็นสัญลักษณ์ว่า ยังสู้..โว้ยยย และตรึงคนที่คิดจะชิ่งเอาไว้ก่อน ถึงขนาดที่ “นายหญิงจากแดนไกล” และ “ผู้นำนายหญิงน้อย” ต้องโทรสายตรงเช็กกันรายตัว สกัดเลือดไม่ให้ไหลไปมากกว่านี้

ขณะที่อีกขั้วการเมือง ค่ายส้ม พรรคประชาชน ยังคงไม่นิ่งกับการวางตัวผู้สมัครสส.

หลายจังหวัด หลายพื้นที่ ยังปีนเกลียวกัน คนเดิมถูกตัดสิทธิ์ไม่ส่งลงสมัคร เลยออกมาโวยวายใส่ ทีมเกสตาโป

ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ชัดเจนว่าเป็นเกมชิงอำนาจของ 3 ก๊ก แดง-น้ำเงิน-ส้ม

โดยมีตัวแปรสำคัญคือ กรรมการผู้คุมกฎ อย่าง กกต. ที่วันนี้ยังไม่สามารถทำให้ประชาชนไว้วางใจได้ว่า จะจัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส ได้อย่างไร

โดยเฉพาะตัวชงอย่าง “แหวง เซราะกราว” ที่วันนึงให้สัมภาษณ์ถึงเหตุที่อาจต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป หากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่สงบ

แต่มาอีกวันบอก จะไม่มีการเลื่อนเลือกตั้งออกไป แม้จะมีเหตุตูมตาม บริเวณแนวชายแดน ก็ยังสามารถบริหารจัดการได้

กรรมการทำตัวเป็นไม้หลักปักขี้เลนแบบนี้ จะให้ชาวบ้านไว้วางใจได้ไง..!

“สีหศักดิ์” สรุปถกอาเซียน เคาะนัด GBC ไทย-กัมพูชา 24 ธ.ค. หารือหยุดยิง

TMAC ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิด ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมร้ายแรง