สหรัฐฯ ลงมติค้านยุโรป เข้าข้างรัสเซียสองครั้ง ในที่ประชุม UN

สหรัฐฯ สร้างความประหลาดใจด้วยการลงมติขัดแย้งกับพันธมิตรยุโรปถึงสองครั้งในที่ประชุมสหประชาชาติ (UN) เนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปีของการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย โดยทั้งคัดค้านมติของยุโรปที่ประณามรัสเซีย และสนับสนุนมติที่ตนเองเสนอในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งไม่มีการกล่าวโทษรัสเซีย สะท้อนถึงการเปลี่ยนจุดยืนของรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อสงคราม


สหรัฐฯ คัดค้านมติยุโรป สนับสนุนรัสเซียในการลงคะแนนเสียง UN

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ประชุม สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ได้ลงมติเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน มติที่เสนอโดยยุโรป ซึ่งประณามรัสเซียและสนับสนุนอธิปไตยของยูเครน ได้รับการสนับสนุน 93 เสียง ขณะที่สหรัฐฯ กลับลงคะแนน “คัดค้าน” พร้อมกับรัสเซีย อิสราเอล เกาหลีเหนือ ซูดาน เบลารุส และฮังการี ขณะที่มี 65 ประเทศงดออกเสียง

จากนั้น ในที่ประชุม คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) สหรัฐฯ ได้นำเสนอร่างมติที่เรียกร้องให้ยุติสงคราม แต่ไม่มีการประณามรัสเซีย ซึ่งผ่านมติด้วยคะแนนเสียง 10 เสียง โดย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เดนมาร์ก กรีซ และสโลวีเนีย งดออกเสียง

เปลี่ยนท่าที เอาใจรัสเซีย ลดความมุ่งมั่นต่อ NATO

การตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่สวนทางกับแนวทางพันธมิตรยุโรปครั้งนี้ สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของรัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะนโยบายที่เน้นความสัมพันธ์กับรัสเซีย และลดความมุ่งมั่นต่อความมั่นคงของยุโรป ภายใต้การนำของทรัมป์ สหรัฐฯ มีท่าทีอ่อนโยนต่อรัสเซียมากขึ้น และตั้งคำถามถึงบทบาทของ NATO ในการสนับสนุนยูเครน

นักการทูตยุโรปหลายรายแสดงความกังวล โดย มารีอานา เบตซา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน กล่าวว่า “เราจำเป็นต้องยืนยันอีกครั้งว่าการรุกรานควรได้รับการประณามและทำลายชื่อเสียง ไม่ใช่ให้รางวัล”

พันธมิตรยุโรปแตกแยก ฝรั่งเศส-อังกฤษงดออกเสียง

การลงมติครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เดินทางไปพบ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาว ท่ามกลางความขัดแย้งรุนแรงระหว่างทั้งสองประเทศเกี่ยวกับท่าทีต่อสงครามในยูเครน

แม้สหรัฐฯ จะผลักดันมติของตนเอง แต่พันธมิตรสำคัญอย่าง สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส กลับ งดออกเสียง สะท้อนถึงรอยร้าวที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มพันธมิตรตะวันตก

UNGA: เวทีหลัก หลัง UNSC ถูกขัดขวางโดยรัสเซีย

ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถูก รัสเซีย (หนึ่งใน 5 สมาชิกถาวร) ขัดขวางการออกมติที่เกี่ยวข้องกับยูเครน ส่งผลให้ UNGA กลายเป็นเวทีหลักในการถกเถียงเกี่ยวกับสงคราม อย่างไรก็ตาม มติของสมัชชาใหญ่ฯ ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ต่างจากมติของคณะมนตรีความมั่นคง

นักวิเคราะห์มองว่า ท่าทีของสหรัฐฯ ในครั้งนี้สะท้อนถึงการปรับเปลี่ยนแนวทางการทูต ซึ่งอาจส่งผลต่อโครงสร้างอำนาจระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ของ NATO กับยูเครนในระยะยาว

ข่อมูล / ภาพ : ไทยรัฐ

นายกฯ แพทองธาร สั่งจัดการบุหรี่ไฟฟ้าและแก้ปัญหาราคาสินค้าการเกษตร

ตร.สระแก้ว บุกค้นอพาร์ตเมนต์ตลาดโรงเกลือ พบโยงบัญชีม้า-ต่างด้าวเถื่อน