ศาลชารีอะห์ในอาเจะห์ อินโดนีเซีย ลงโทษเฆี่ยนหลังชายหนุ่ม 2 คนต่อหน้าสาธารณชน ฐานมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน นับเป็นครั้งที่ 4 ที่มีการบังคับใช้บทลงโทษนี้ตั้งแต่ปี 2549
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ศาลชารีอะห์ใน จังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย ดำเนินการลงโทษ ชายวัย 18 และ 24 ปี ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดตามกฎหมายอิสลาม ฐานมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน โดยทั้งคู่ถูก เฆี่ยนกลางแจ้งภายในลานศาลาว่าการบุสตันนุสซาลาติน เมืองบันดาอาเจะห์ ท่ามกลางประชาชนที่เข้าชมจำนวนมาก
ผู้ต้องหาได้รับอนุญาตให้ พักดื่มน้ำหลังถูกเฆี่ยน 20 ครั้ง และมีการปฐมพยาบาลบาดแผลที่เกิดขึ้น ก่อนที่หนึ่งในผู้ต้องหาจะต้องถูกพยุงออกจากพื้นที่ลงโทษ เนื่องจากอาการอ่อนแรงหลังถูกเฆี่ยนครบโควตา นอกจากนี้ ยังมีบุคคลอีก 2 คนถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยน 34 และ 8 ครั้ง จากคดีเล่นการพนัน
จับกุมหลังชาวบ้านสงสัยว่าเป็นเกย์
รายงานของ สื่อท้องถิ่นอินโดนีเซีย ระบุว่า ทั้งสองคนถูกจับกุมเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังจากชาวบ้านสงสัยว่าพวกเขาเป็นเกย์ และบุกเข้าไปในห้องพักของทั้งสอง พบว่ากำลัง เปลือยกายและกอดกัน จึงรีบแจ้ง ตำรวจชารีอะห์ มาจับกุม
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ศาลชารีอะห์ตัดสินลงโทษเฆี่ยน 85 และ 80 ครั้ง ตามลำดับ แต่ภายหลังมีการลดโทษให้เหลือ 82 และ 77 ครั้ง
อาเจะห์ จังหวัดเดียวของอินโดฯ ที่ใช้กฎหมายชารีอะห์
อาเจะห์เป็น จังหวัดเดียวในอินโดนีเซีย ที่บังคับใช้กฎหมายอิสลาม (ชารีอะห์) นับตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงพิเศษกับรัฐบาลอินโดนีเซีย เพื่อยุติความขัดแย้งแบ่งแยกดินแดนที่ยาวนาน

การละเมิดศีลธรรม เช่น การมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน หรือการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส อาจถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนสูงสุด 100 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายที่เคยเสนอให้มีโทษ ประหารชีวิตด้วยการปาก้อนหินสำหรับผู้กระทำผิดฐานคบชู้ ถูกยกเลิกหลังเผชิญแรงกดดันจากรัฐบาลกลาง
ข้อมูล / ภาพ : ไทยรัฐ