สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลไทย กรณีส่งตัวชาวอุยกูร์อย่างน้อย 40 คนกลับ ประเทศจีน โดยไม่สนคำเตือนจากองค์กรสิทธิมนุษยชน ระบุการส่งตัวดังกล่าวอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน การบังคับใช้แรงงาน และการทรมาน พร้อมเรียกร้องให้ไทยปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน
สหรัฐฯ กังวล ไทยอาจละเมิดอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน
นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีน โดยเน้นย้ำว่า การส่งตัวบุคคลไปยังประเทศที่อาจเป็นอันตรายต่อพวกเขา ขัดต่อหลักการไม่ส่งกลับ (Non-Refoulement) และเสี่ยงต่อการละเมิดอนุสัญญาต่อต้านการทรมานขององค์การสหประชาชาติ (UN CAT)
“การกระทำของไทยครั้งนี้ ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประเพณีการให้ที่พักพิงแก่ผู้ลี้ภัยของไทย ซึ่งเคยเป็นแบบอย่างที่ดีในเวทีนานาชาติ” แถลงการณ์ระบุ พร้อมเรียกร้องให้ รัฐบาลไทยตรวจสอบการคุ้มครองสิทธิของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับ
องค์กรสิทธิมนุษยชนวิจารณ์ไทยละเมิดสิทธิขั้นร้ายแรง
องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนหลายแห่ง รวมถึง แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และ ฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกมาประณามการส่งตัวชาวอุยกูร์ครั้งนี้ โดยชี้ว่า ชนกลุ่มน้อยมุสลิมในจีนเผชิญกับการกดขี่และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างหนัก
นายเอเลน เพียร์สัน ผู้อำนวยการภาคเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่าการกระทำของไทย เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง และเสี่ยงทำให้ชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับ ถูกทรมานและจำคุกระยะยาว
ด้าน นายฟิล โรเบิร์ตสัน จากกลุ่มสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและแรงงานแห่งเอเชีย ระบุว่า การเนรเทศครั้งนี้เป็น “การทำลายล้างที่ไม่อาจยอมรับได้” และถือเป็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของรัฐบาลไทยจากอดีตที่เคยให้ความคุ้มครองกลุ่มผู้ลี้ภัยมากกว่า
จีนยืนยัน ปราบปรามเพื่อความมั่นคง ไม่ใช่ละเมิดสิทธิ
ขณะที่รัฐบาลจีนออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยยืนยันว่า มาตรการที่ใช้ในมณฑลซินเจียงเป็นส่วนหนึ่งของการต่อต้านการก่อการร้าย และให้การฝึกอบรมอาชีพแก่ชาวอุยกูร์ ไม่ใช่การละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและผู้เชี่ยวชาญจากสหประชาชาติ ระบุว่า ชาวอุยกูร์ที่หลบหนีออกจากจีนมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกละเมิดสิทธิโดยรัฐจีน ซึ่งรวมถึงการบังคับใช้แรงงาน การกักขังโดยไม่มีการพิจารณาคดี และการสูญหายโดยถูกบังคับ
ข้อมูล / ภาพ : ไทยรัฐ