ญี่ปุ่นเตรียมใช้ระบบ 2 ราคา นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องจ่ายแพงขึ้น

ญี่ปุ่นตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยว 60 ล้านคนภายในปี 2573

รัฐบาลญี่ปุ่น กำลังดำเนินมาตรการใหม่เพื่อรับมือกับปัญหา นักท่องเที่ยวล้นเกินศักยภาพการรองรับของสถานที่ท่องเที่ยว (Overtourism) โดยเตรียม ใช้ระบบ 2 ราคา สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญบางแห่ง ซึ่งจะกำหนดราคาที่แตกต่างกันระหว่าง ชาวญี่ปุ่น และ นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มใช้ใน เดือนกรกฎาคม 2568 เพื่อควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวและกระจายรายได้สู่ภาคการท่องเที่ยวของประเทศ

ค่าเงินเยนอ่อนค่าดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

การอ่อนค่าของ เงินเยน ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจาก จีน เกาหลีใต้ และไทย ในปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปญี่ปุ่นมีจำนวนมากถึง 36.86 ล้านคน แซงหน้าประเทศไทยที่มีนักท่องเที่ยว 35 ล้านคน เป็นครั้งแรก สถานการณ์นี้นำไปสู่ความแออัดในสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการเพื่อลดผลกระทบ

เริ่มใช้ระบบ 2 ราคา เดือนกรกฎาคม 2568

ภายใต้นโยบายใหม่ รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดให้สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งใช้ ระบบ 2 ราคา โดยแยกระหว่าง ชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากค่าครองชีพที่แตกต่างกัน และผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินเยน ตัวอย่างของสถานที่ที่จะนำร่องใช้ระบบนี้คือ “Junguria Okinawa” ธีมพาร์คเชิงธรรมชาติ ที่จะเปิดในเดือนกรกฎาคม ซึ่งกำหนดค่าเข้าชมสำหรับ นักท่องเที่ยวต่างชาติ 8,800 เยน ขณะที่ ชาวญี่ปุ่นจ่ายเพียง 6,930 เยน

ข้อดีและข้อถกเถียงของมาตรการนี้

ผู้สนับสนุนมาตรการ มองว่าเป็นแนวทางที่ช่วยให้ญี่ปุ่นสามารถ พัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว และ กระจายรายได้ ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ราคาที่สูงขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังช่วยลดจำนวนผู้เข้าชมในบางจุดที่แออัดเกินไป อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ มองว่ามาตรการนี้อาจ สร้างความไม่เป็นธรรม และ ยากต่อการบังคับใช้ โดยเฉพาะการแยกระหว่างนักท่องเที่ยวกับชาวญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น ปราสาทฮิเมจิ ได้เลือกใช้แนวทางแบ่งราคาตาม “ชาวเมือง” และ “คนนอกเมือง” แทน

มาตรการแบบเดียวกันที่ใช้ในประเทศอื่น

ระบบ 2 ราคา ไม่ใช่เรื่องใหม่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หลายประเทศได้ใช้แนวทางนี้มานาน เช่น วัดพระแก้วในไทย และ ทัชมาฮาลในอินเดีย ซึ่งกำหนดราคาสำหรับชาวท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติแยกกัน อีกทั้งบางเมืองเช่น เวนิส (อิตาลี) และ ฮาวาย (สหรัฐฯ) ยังมีการเรียกเก็บ ภาษีการท่องเที่ยว สำหรับผู้มาเยือนเพื่อลดผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่มากเกินไป

สำหรับประเทศไทยเอง รัฐบาลยังมีแนวทาง เก็บภาษีการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติคนละ 300 บาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการภายในปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์ในการใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวและการจัดการผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการนี้ได้จาก เว็บไซต์ข่าวการเมือง ของเรา เพื่ออัปเดตความคืบหน้าล่าสุดจากแวดวงนโยบายการท่องเที่ยวญี่ปุ่นและระดับนานาชาติ

ข้อมูล/ภาพ : ฐานเศรษฐกิจ

เงินดิจิทัล 10,000 บาท กลุ่มอายุ 21-59 ปี จะได้รับเมื่อไหร่?

ผบ.ตร. ลงนามไล่ ‘บิ๊กโจ๊ก’ ออกจากราชการ ปมคดีวินัยร้ายแรง