เกาหลีเหนือประหาร 3 ผู้แปรพักตร์ต่อหน้าประชาชน

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2024 รัฐบาลเกาหลีเหนือประหารชีวิตชาย 3 คน ที่พยายามแปรพักตร์ไปเกาหลีใต้ เหตุเกิดต่อหน้าชาวบ้านและเด็กนักเรียนที่ถูกบังคับให้ดู รายงานระบุว่าผู้ถูกประหารถูกมัดติดกับเสา ถูกยิง 90 นัด จนร่างแหลกก่อนถูกเผาทำลาย

แผนหลบหนีที่ล้มเหลวและการประหารสุดโหด

ผู้ถูกประหารเป็นสองพี่น้องแซ่คิมและเพื่อนแซ่ลี อายุ 30 กว่าปี พวกเขาวางแผนหลบหนีทางเรือ โดยใช้เข็มทิศนำทางในทะเลหมอก เมื่อถึงคาบสมุทรคังรยอง พวกเขาขอความช่วยเหลือจากเรือประมงที่พบ แต่กลับเป็นเรือลาดตระเวนเกาหลีเหนือ ส่งผลให้ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2024

รัฐบาลสั่งให้ประชาชนจาก โรงงาน ฟาร์ม และโรงเรียน รวมตัวเป็นสักขีพยาน เจ้าหน้าที่กล่าวหาพวกเขาว่าเป็นคนทรยศ และไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะมีที่ฝังศพ จากนั้น ยิงเป้า 90 นัด จนร่างแหลก ก่อนเผาทำลายต่อหน้าฝูงชน เหตุการณ์นี้สร้างความหวาดกลัว โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่ถึงกับกรีดร้องด้วยความตกใจ

วิกฤตเศรษฐกิจกระตุ้นให้ประชาชนหลบหนี

Daily NK รายงานว่า ช่วงปี 2008-2011 มีผู้หลบหนีเฉลี่ย 3,000 คนต่อปี แต่ลดลงครึ่งหนึ่งหลังจาก คิม จองอึนขึ้นดำรงตำแหน่งในปี 2012 และลดลงหนักขึ้นเมื่อโควิด-19 ทำให้รัฐบาลปิดพรมแดน อย่างไรก็ตาม ปี 2024 จำนวนผู้หลบหนีกลับเพิ่มขึ้นถึง 236 คน

Radio Free Asia (RFA) วิเคราะห์ว่า เกาหลีเหนือตกอยู่ในวิกฤตเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2009 หลัง ปฏิรูปเงินตราล้มเหลว ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อ ขาดแคลนอาหาร และประชาชนสูญเสียทรัพย์สิน รัฐบาลจำกัดกิจกรรมเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนตกงาน ส่งผลให้หลายคนเลือกเสี่ยงชีวิตหลบหนี รัฐบาลจึงใช้การประหารชีวิตข่มขู่ประชาชน

แหล่งข่าวจากพยองอันเหนือระบุว่า ผู้ถูกประหารน่าจะถูกทรมานหนักก่อนถูกยิง พวกเขา ถูกมัดติดกับเสาและไม่สามารถยืนได้เอง เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า เกาหลีเหนือยังคงใช้ความโหดร้ายในการควบคุมประชาชน

North Korea, การประหารชีวิต, ผู้แปรพักตร์, เกาหลีเหนือ, คิม จองอึน

ข้อมูล/ภาพ : sanook

ฝ่ายค้านยอมถอดชื่อทักษิณจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เดินเกมการเมืองเชิงกลยุทธ์

บอร์ด กสทช. ไฟเขียวประกาศสนับสนุนเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม พร้อมเดินหน้าระบบ Social Credit