เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางการมลรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา ได้ออกคำสั่งอพยพประชาชนในบางพื้นที่ของ เขตโพล์ก (Polk County) หลังเกิดไฟป่ารุนแรง 3 จุด ซึ่งรวมแล้วเผาผลาญพื้นที่มากกว่า 3,000 เอเคอร์ โดยไฟป่าทั้งสาม ได้แก่ Black Cove Fire, Deep Woods Fire และ Fish Hook Fire เกิดขึ้นในบริเวณที่เคยได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนเฮเลนเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีต้นไม้ล้มจำนวนมาก ซึ่งกลายเป็นเชื้อเพลิงให้ไฟป่าลุกลามรวดเร็ว ทั้งนี้ สองในสามจุดยังคงไม่สามารถควบคุมได้ ขณะที่รัฐเซาท์แคโรไลนาที่อยู่ใกล้เคียงประกาศภาวะฉุกเฉินและสั่งห้ามการจุดไฟกลางแจ้งทั่วทั้งรัฐ
สถานการณ์ไฟป่าในเขตโพล์กยังน่าวิตก
สำนักงานป่าไม้รัฐนอร์ทแคโรไลนา รายงานว่า ไฟป่าทั้งสามเกิดขึ้นห่างจากเมืองแอชวิลล์ทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 30 ไมล์ โดยมีสภาพอากาศแห้งและความชื้นต่ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว
Black Cove Fire ได้เผาไหม้พื้นที่แล้วกว่า 1,239 เอเคอร์ และยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ขณะที่ Deep Woods Fire ก็มีสภาพเช่นเดียวกัน โดยเผาไหม้แล้ว 1,713 เอเคอร์ ทั้งสองพื้นที่ยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพจาก กรมความปลอดภัยสาธารณะรัฐนอร์ทแคโรไลนา
ส่วน Fish Hook Fire มีความคืบหน้าในการควบคุมมากกว่า โดยสามารถควบคุมได้ 50% เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากเผาไหม้พื้นที่ไปกว่า 1,713 เอเคอร์เช่นกัน และคำสั่งอพยพในพื้นที่นี้ได้ถูกยกเลิกแล้ว
คุณภาพอากาศแย่ในหลายพื้นที่
จากเหตุไฟป่าหลายจุด กองควบคุมคุณภาพอากาศรัฐนอร์ทแคโรไลนา ได้ออกประกาศแจ้งเตือนคุณภาพอากาศระดับ “โค้ดแดง” สำหรับเขตโพล์ก ซึ่งหมายถึงอากาศอยู่ในระดับไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ขณะที่เขตรัทเธอร์ฟอร์ดที่อยู่ใกล้เคียงได้รับการแจ้งเตือน “โค้ดส้ม” สำหรับกลุ่มผู้มีความไวต่อควันไฟ
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อทั้งประชาชนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ต้องทำงานภายใต้สภาวะที่ท้าทายเป็นอย่างมาก
เซาท์แคโรไลนาประกาศภาวะฉุกเฉิน
สถานการณ์ไฟป่าได้ลุกลามไปยังรัฐเพื่อนบ้านอย่าง เซาท์แคโรไลนา โดย ผู้ว่าการเฮนรี แมคมาสเตอร์ (Henry McMaster) ได้ลงนามในคำสั่งประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดไฟป่าใน อุทยานรัฐ Table Rock บริเวณชายแดนติดกับรัฐนอร์ทแคโรไลนา
ไฟป่าในพื้นที่ดังกล่าวเริ่มต้นในคืนวันศุกร์และลุกลามอย่างรวดเร็ว โดยในวันอาทิตย์มีพื้นที่ถูกไฟไหม้แล้วกว่า 110 เอเคอร์ ข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมไฟในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ยังไม่ได้รับการเปิดเผย
แมคมาสเตอร์ยังประกาศ ห้ามจุดไฟกลางแจ้งทั่วทั้งรัฐ เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าเพิ่มเติม โดยระบุชัดว่า “ผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย”
ไฟป่าลุกลามซ้ำรอยต้นเดือนมีนาคม
นี่เป็นครั้งที่สองในเดือนมีนาคมที่รัฐเซาท์แคโรไลนาประกาศภาวะฉุกเฉินจากไฟป่า โดยก่อนหน้านี้ช่วงวันที่ 2-3 มีนาคม เคยเกิดไฟป่าในพื้นที่ Carolina Forest ใกล้เมืองเมอร์เทิลบีช ทำลายพื้นที่กว่า 1,600 เอเคอร์ และคุกคามชุมชนหลายแห่งก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมเพลิงได้
สถานการณ์ไฟป่าทั้งสองรัฐจึงยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังไม่มีการควบคุมเพลิงได้ทั้งหมด
สามารถติดตามข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสถานการณ์ไฟป่าในรัฐนอร์ทแคโรไลนาและเซาท์แคโรไลนาได้ผ่านเว็บไซต์ของ North Carolina Forest Service และ South Carolina Emergency Management

ข้อมูล/ภาพ : abc NEWS