การโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ต่อเป้าหมายกลุ่มฮูตีในเยเมนยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยพุ่งเป้าไปยังโรงกลั่นน้ำมัน สนามบิน และฐานยิงขีปนาวุธ พร้อมถ้อยแถลงจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าจะใช้ “กำลังอย่างท่วมท้น” จนกว่าจะหยุดการคุกคามเรือพาณิชย์ในทะเลแดงได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮูตีกลับตอบโต้ด้วยความท้าทายมากขึ้น และมีแนวโน้มว่าอาจมองการโจมตีเหล่านี้เป็นโอกาสในการขยายบทบาทของตนเองในเวทีภูมิภาค
การโจมตีของฮูตีและผลกระทบต่อเส้นทางการเดินเรือโลก
กลุ่มฮูตีเริ่มต้นปฏิบัติการทางทหารในเดือนตุลาคม 2023 เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับชาวปาเลสไตน์ จากนั้นได้ดำเนินการโจมตีมากกว่า 100 ครั้ง ทำให้เรือพาณิชย์อย่างน้อยสองลำจมลง และส่งผลให้กว่า 70% ของการขนส่งทางทะเลเปลี่ยนเส้นทางไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮปในแอฟริกาใต้ ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกโดยตรง
แม้สหรัฐฯ จะระบุว่าปฏิบัติการดังกล่าวได้สังหารผู้นำฮูตีไปหลายราย แต่กลุ่มยังคงมีกำลังทางทหารและโครงสร้างการบังคับบัญชาหลักอยู่ครบ และยังคงยิงขีปนาวุธและโดรนโจมตีเป้าหมายในอิสราเอลและกองทัพเรือสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง
ต้นทุนของสหรัฐฯ และความท้าทายที่เพิ่มขึ้น
รายงานจาก CNN ระบุว่าค่าใช้จ่ายของสหรัฐฯ ในปฏิบัติการโจมตีกลุ่มฮูตีในช่วงเวลาเพียงสามสัปดาห์นั้นเกือบแตะ 1 พันล้านดอลลาร์ โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งเตือนว่า “เรากำลังเผาผลาญความพร้อมรบอย่างรวดเร็ว” ทั้งในแง่ของยุทโธปกรณ์ เชื้อเพลิง และเวลาในการปฏิบัติการ
กลุ่มฮูตียังประกาศว่าพร้อมขยายขอบเขตการโจมตีไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมีรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียได้ยกระดับการป้องกันภัยทางอากาศอย่างเร่งด่วน
ความอึดของฮูตีและความเป็นไปได้ของการรบภาคพื้นดิน
แม้ขีดความสามารถของกลุ่มฮูตีจะถูกบั่นทอนในบางส่วน นักวิเคราะห์เชื่อว่าพวกเขายังมีศักยภาพในการต่อต้านอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยเครือข่ายลักลอบนำเข้าสินค้าทางทหาร เช่น เครื่องยนต์เจ็ตขนาดเล็ก และเชื้อเพลิงไฮโดรเจน สำหรับโดรน ซึ่งช่วยเพิ่มระยะและพลังในการโจมตี
อดีตการรบกับซาอุฯ และสหรัฐฯ ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา พิสูจน์ว่ากลุ่มฮูตีสามารถอยู่รอดจากการโจมตีด้วยกำลังอากาศจำนวนมากได้ ดังนั้น นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า การจะหยุดยั้งกลุ่มฮูตีได้จริง จำเป็นต้องใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินเพื่อยึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญอย่างเมืองหลวงซานาและท่าเรือโฮเดดาห์
ความเชื่อมโยงกับอิหร่านและยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ
รัฐบาลทรัมป์ระบุชัดเจนว่าการโจมตีฮูตีเป็นส่วนหนึ่งของการกดดันอิหร่าน ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของกลุ่มฮูตีในภูมิภาค แม้ฮูตีจะอยู่ในเครือข่าย “แกนต่อต้าน” ที่อิหร่านสนับสนุน แต่ก็มีความเป็นอิสระสูง และไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าอิหร่านสามารถควบคุมพฤติกรรมของฮูตีได้โดยตรง
ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 และเครื่องบินเติมน้ำมันไปยังเกาะดีเอโก การ์เซีย อันอาจเป็นสัญญาณของการโจมตีเพิ่มเติมในเยเมน หรือการส่งสารทางยุทธศาสตร์ถึงอิหร่าน


ข้อมูล/ภาพ : CNN World