วันที่ 18 มิถุนายน 2568 ชาวกัมพูชา นับหมื่นคน รวมตัวเดินขบวน ณ กรุงพนมเปญ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลกัมพูชา และกองกำลังชายแดนในการจัดการข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การชุมนุมในครั้งนี้นำโดย ฮุน มานี รองนายกรัฐมนตรี และเป็นการแสดงออกถึงกระแสรักชาติอย่างเข้มข้นท่ามกลางความตึงเครียดชายแดน หลังเกิดเหตุปะทะเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1 ราย

การเดินขบวนเริ่มจากเกาะ Diamond Island ไปยังอนุเสาวรีย์เอกราชในใจกลางเมือง มีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 100,000 คน ถือธงชาติกัมพูชาและภาพ ฮุน มานี พร้อมคำขวัญกระตุ้นความรักชาติ

ฮุน มานี กล่าวว่าการจัดขบวนครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจแก่กองกำลังแนวหน้าและแสดงถึงความเป็นครอบครัวชาวเขมรที่พร้อมจะปกป้องอธิปไตย แต่เน้นชัดเจนว่าไม่ใช่การข่มขู่ประเทศใด

เหตุเกิดจากการปะทะที่ชายแดน

ต้นกำเนิดแนวโน้มความรักชาติที่ร้อนแรงมาจากเหตุการณ์ปะทะชายแดนบนพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต และช่องบก หลังเกิดการยิงผลัดกันเมื่อ 28 พฤษภาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 ราย

เรื่องบานปลายเป็นประเด็นระดับชาติ จนรัฐบาลกัมพูชายื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อขอให้วินิจฉัยเรื่องชายแดน 4 แห่ง ได้แก่ พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย

นอกจากขบวนเดินรณรงค์ รัฐบาลกัมพูชายังใช้มาตรการตอบโต้ทางภาคการค้าและสื่อสาร ปิดกั้นการนำเข้าไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และสินค้าเกษตรจากไทย รวมถึงยกเลิกการออกอากาศละครและภาพยนตร์จากไทยอีกด้วย

รวมถึงการสั่งให้ปิดด่านนำเข้าผลไม้และผักจากไทย ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน พร้อมอ้างว่าเป็นเพราะไทยปิดด่านชายแดนก่อนโดยไม่แจ้ง และหากไทยไม่เปิดด่านเต็มรูปแบบอีกครั้ง รัฐบาลกัมพูชาจะยกระดับมาตรการต่อเนื่อง

เห็นต่างกัน เจรจายังไงก็ไม่คืบหน้า

ทั้งสองประเทศได้มีการหารือผ่านคณะกรรมการชายแดนร่วม (JBC) และมีพบปะและเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศครั้งล่าสุดวันที่ 14 มิถุนายน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปในเชิงบวกและพยายามลดความตึงเครียด

แต่ในเวลาต่อมากัมพูชาได้เดินหน้ายื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) และใช้มาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจ ส่วนฝ่ายไทยก็ยังยืนยันว่านโยบายพึ่งกลไกทวิภาคีจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์โดยไม่ก้าวสู่ความขัดแย้งรุนแรง