ศาลโซลออกหมายจับ “คิม กอนฮี” ภรรยาอดีต ปธน.เกาหลีใต้ คดีทุจริต-รับสินบน

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 ศาลกลางกรุงโซลมีคำสั่งออกหมายจับ คิม กอนฮี อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง และภรรยาอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ในคดีทุจริตและรับสินบน หลังอัยการพิเศษชี้มีความเสี่ยงทำลายหลักฐาน คดีนี้กลายเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ทั้งอดีตประธานาธิบดีและคู่สมรสถูกจับกุมพร้อมกัน ท่ามกลางแรงกดดันทางการเมืองและการติดตามอย่างใกล้ชิดจากสื่อทั้งในและต่างประเทศ

ศาลสั่งจับทันที เหตุเสี่ยงทำลายหลักฐาน

ศาลโซลพิจารณาคำร้องของทีมอัยการพิเศษก่อนมีคำสั่งจับกุม คิม กอนฮี โดยให้เหตุผลว่าผู้ต้องหามีความเป็นไปได้สูงที่จะทำลายพยานหลักฐาน หากยังคงอยู่ในสถานะอิสระ การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจาก ยุน ซอกยอล อดีตผู้นำเกาหลีใต้ถูกควบคุมตัวในคดีทุจริตและใช้อำนาจโดยมิชอบ

เจ้าหน้าที่ได้นำตัวคิมเข้าสู่กระบวนการควบคุมอย่างเข้มงวด พร้อมเตรียมสืบพยานเพิ่มเติมในหลายประเด็นที่ยังมีข้อสงสัย ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่าการจับกุมครั้งนี้สร้างแรงกระเพื่อมต่อการเมืองภายในและอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้อง

ข้อกล่าวหาหนัก ทั้งปั่นหุ้นและรับของขวัญหรู

คิม กอนฮี เผชิญข้อกล่าวหาหลักหลายประการ ทั้งการ ปั่นหุ้น เพื่อเอื้อผลประโยชน์ การ รับสินบน จากบุคคลและกลุ่มผลประโยชน์ รวมถึงการ ใช้อิทธิพลแทรกแซงการแต่งตั้งบุคคลทางการเมือง หลักฐานสำคัญประกอบด้วยการรับ เครื่องประดับ Van Cleef มูลค่าประมาณ 43,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ไม่ถูกบันทึกในบัญชีทรัพย์สิน

รายงานยังระบุว่าเธอได้รับของขวัญอื่น ๆ เช่น กระเป๋าแบรนด์ Chanel และสร้อยเพชร จากองค์กรทางศาสนา เพื่อแลกกับการสนับสนุนด้านธุรกิจหรือการเมือง แม้เจ้าตัวจะออกมาขอโทษสาธารณชนและยืนยันว่าเป็น “บุคคลเล็ก ๆ” แต่ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด

เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทางการเมืองเกาหลีใต้

นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ของเกาหลีใต้ถูกจับกุม และยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นครั้งแรกที่อดีตผู้นำประเทศและคู่สมรสต้องเผชิญการควบคุมตัวพร้อมกัน คดีดังกล่าวสะท้อนถึงมาตรการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดต่อบุคคลระดับสูง และเป็นสัญญาณว่ารัฐบาลและฝ่ายตุลาการพร้อมเดินหน้าปราบปรามการทุจริตโดยไม่เลือกปฏิบัติ

สื่อวิเคราะห์ว่าการจับกุมครั้งนี้อาจกลายเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ ทั้งในแง่ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อผู้นำ และการปฏิรูปกระบวนการตรวจสอบนักการเมืองในอนาคต

เผย นร.ม.5 ทำร้ายครูปมไม่พอใจคะแนนสอบ เคยทำร้ายเพื่อนในห้อง-พ่อตัวเอง

“บิ๊กเล็ก” ซัดกัมพูชาไร้มนุษยธรรม วางทุ่นระเบิด ละเมิดอธิปไตยไทย จี้นานาชาติกดดัน