รัฐบาล เกาหลีใต้ เตรียมส่ง คณะทำงานพิเศษ เดินทางไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในเย็นวันที่ 15 ตุลาคมนี้ เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกัมพูชา เร่งรัดการสอบสวนคดีอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับชาวเกาหลีใต้ ทั้งกรณีหลอกลวงไปทำงาน การลักพาตัว และคดีนักศึกษาเกาหลีที่ถูกทรมานจนเสียชีวิตเมื่อเดือนสิงหาคม รวมถึงวางแนวทางส่งตัวผู้ต้องขังชาวเกาหลีกลับประเทศ

คณะทำงานพิเศษเกาหลีใต้ลงพื้นที่กัมพูชา หารือเจ้าหน้าที่ระดับสูง

คิม จิน-อา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนที่ 2 ของเกาหลีใต้ จะนำคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงยุติธรรม และ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ (NIS) เดินทางไปปฏิบัติภารกิจดังกล่าว โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของกัมพูชา เพื่อเร่งการสอบสวนคดีอาชญากรรมที่สร้างความสะเทือนใจให้สังคมเกาหลี

แหล่งข่าวระบุว่า หนึ่งในประเด็นสำคัญที่คณะทำงานจะหยิบยกขึ้นหารือ คือคดี นักศึกษาเกาหลีใต้ถูกทรมานจนเสียชีวิตในกัมพูชา เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้ต้องการความร่วมมือจากทางการกัมพูชาในการเปิดเผยข้อเท็จจริงและนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ

หารือแผนส่งผู้ต้องขังชาวเกาหลีกลับประเทศ

นอกจากภารกิจสอบสวนคดีอาชญากรรมแล้ว คณะทำงานยังมีภารกิจสำคัญคือการประสานแผน ส่งตัวผู้ต้องขังชาวเกาหลีใต้ที่ถูกคุมขังในคดีฉ้อโกงออนไลน์กลับประเทศ ปัจจุบันมีชาวเกาหลีใต้ 63 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ในกัมพูชา ซึ่งส่วนใหญ่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าชาวเกาหลีใต้บางส่วนในกลุ่มนี้สมัครใจอยู่ในกัมพูชาต่อ ทำให้การส่งตัวกลับต้องพิจารณาเป็นรายกรณี โดยเบื้องต้นจะดำเนินการกับผู้ที่มีหมายจับและต้องการกลับประเทศก่อนเป็นลำดับแรก

ยอดคดีหลอกแรงงาน-กักขังพุ่งกว่า 10 เท่าในปีเดียว

ข้อมูลจาก กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ระบุว่า จำนวนการร้องเรียนกรณีหลอกไปทำงานและถูกกักขังในกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเพียง 17 คดีในปี 2023 เป็นกว่า 220 คดีในปีถัดมา สาเหตุหลักมาจากการที่ ขบวนการอาชญากรรมไซเบอร์ ย้ายฐานปฏิบัติการจากพื้นที่ “สามเหลี่ยมทองคำ” ซึ่งเป็นเขตห้ามเดินทาง มายังประเทศกัมพูชา ซึ่งเดินทางเข้าออกได้สะดวกกว่า

ปัจจุบันทางการเกาหลีใต้คาดว่ามีประชาชนราว 80 คนที่เดินทางไปกัมพูชาแล้วไม่สามารถติดต่อได้ เชื่อว่าบางส่วนอาจถูกกักขังหรือลักพาตัว ขณะที่อีกส่วนอาจเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายมิจฉาชีพเอง

อาจแต่งตั้งอดีตทูตพิเศษดูแลสถานการณ์ในพนมเปญ

มีรายงานเพิ่มเติมว่า รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังพิจารณาส่ง พัค อิล อดีตเอกอัครราชทูตประจำเลบานอน ไปปฏิบัติหน้าที่ในกัมพูชา เพื่อดูแลสถานการณ์และบริหารจัดการด้านการคุ้มครองคนเกาหลีในต่างประเทศ หลังตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำกัมพูชาว่างลง

กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ยืนยันว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงจังของรัฐบาลในการปกป้องชีวิตและสิทธิของพลเมืองในต่างแดน พร้อมเดินหน้าประสานความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคอาเซียนอย่างใกล้ชิด