เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 รัฐบาลกัมพูชา ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ สหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักร ดำเนินคดีและคว่ำบาตร เฉิน จื้อ (Chen Zhi) เจ้าของบริษัท Prince Group อย่างเป็นธรรม โดยชี้ว่าต้องมีหลักฐานเพียงพอและทุกขั้นตอนต้องเป็นไปตามกฎหมาย หลังสหรัฐฯ และอังกฤษประกาศคว่ำบาตรเฉิน จื้อ ในข้อหาอาชญากรรมข้ามชาติและเครือข่ายสแกมเมอร์ใหญ่ในกัมพูชา
สหรัฐฯ–อังกฤษประกาศคว่ำบาตรและยึดทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าหลายแสนล้าน
ก่อนหน้านี้ สหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักร ประกาศคว่ำบาตร เฉิน จื้อ เจ้าของ Prince Group ในข้อหาอาชญากรรมข้ามชาติและเครือข่ายสแกมเมอร์ขนาดใหญ่ในกัมพูชา ซึ่งหลอกลวงประชาชนให้ลงทุนออนไลน์ ฟอกเงิน และบังคับแรงงานในศูนย์สแกมเมอร์กว่า 10 แห่ง
มาตรการดังกล่าวส่งผลให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ฟ้องยึดทรัพย์สินดิจิทัลบิตคอยน์ของ Prince Group จำนวน 127,271 บิตคอยน์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4.8 แสนล้านบาท ถือเป็นการริบทรัพย์ทางดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ

กัมพูชาเน้นย้ำหลักฐานและความเป็นธรรม
ล่าสุด ทัช สุขะ (Touch Sokhak) โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา กล่าวว่า Prince Group ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายของกัมพูชาและไม่ได้รับอภิสิทธิ์เหนือบริษัทอื่น พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้ปกป้องบุคคลที่ละเมิดกฎหมาย แต่ขอให้ สหรัฐฯ และ สหราชอาณาจักร ดำเนินการด้วยหลักฐานเพียงพอและตามกฎหมาย
“ผมไม่มีอะไรจะแสดงความเห็นมากนักต่อความพยายามดำเนินคดีของต่างชาติ แต่เราหวังว่าทั้งสองประเทศจะมีหลักฐานและข้อโต้แย้งเพียงพอในการเอาผิดเขา” โฆษกกล่าว พร้อมระบุว่าทางการกัมพูชายินดีให้ความร่วมมือในการสอบสวน
ความเคลื่อนไหวทางกฎหมายและสถิติอาชญากรรมไซเบอร์
ข้อมูลจาก Fresh News ระบุว่า ทางการกัมพูชาได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยอาชญากรรมไซเบอร์มากกว่า 75 ราย รวม 20 สัญชาติ ในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี 2025 ซึ่งสะท้อนความเข้มงวดในการปราบปรามเครือข่ายสแกมเมอร์และการกระทำผิดกฎหมายไซเบอร์ภายในประเทศ
นักวิเคราะห์มองว่าการเรียกร้องของกัมพูชาเป็นสัญญาณว่าประเทศต้องการความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างเป็นระบบ และยืนยันว่าการดำเนินคดีใด ๆ ต้องยึดหลัก ความโปร่งใสและเป็นธรรมตามกฎหมาย