เกาหลีใต้ จัดหนัก เตรียมคว่ำบาตรการเงิน สกัดสแกมเมอร์ในกัมพูชา

รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินต่อธุรกิจในกัมพูชา หลังพบการค้ามนุษย์และอาชญากรรมไซเบอร์ขยายตัว หวังตัดเส้นทางทุนกลุ่มอาชญากรและคุ้มครองพลเมืองที่ตกเป็นเหยื่อ

รัฐบาล เกาหลีใต้ อยู่ระหว่างพิจารณามาตรการ คว่ำบาตรทางการเงิน ต่อธุรกิจที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมใน กัมพูชา หลังพบการค้ามนุษย์และหลอกลวงทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น โดยมีชาวเกาหลีใต้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะประกาศภายในสิ้นเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งจะถือเป็นท่าทีที่แข็งกร้าวที่สุดของกรุงโซลต่อประเด็นอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เกาหลีใต้เล็งอายัดทรัพย์ธุรกิจต้องสงสัย ควบคุมธุรกรรมดิจิทัล

สำนักข่าว Korea Times รายงานว่า หน่วยงาน ข่าวกรองทางการเงิน (Financial Intelligence Unit – FIU) ภายใต้คณะกรรมการบริการทางการเงินของเกาหลีใต้ กำลังพิจารณากำหนดให้บริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมในกัมพูชาเป็น “นิติบุคคลที่ถูกจำกัด (Restricted Entity)” เพื่อเปิดทางสู่การอายัดทรัพย์สินและปิดกั้นการทำธุรกรรมทางการเงิน ทั้งในระบบธนาคารและสกุลเงินดิจิทัล

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเผยว่า “ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหารือแนวทางในการระบุและจัดการองค์กรอาชญากรรมเหล่านี้อย่างเป็นระบบ” โดยกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรมจะร่วมวางกลไกการตรวจสอบเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงหน่วยงานความมั่นคงระหว่างประเทศ

ตอบโต้เสียงวิจารณ์ ‘รัฐบาลเคลื่อนไหวช้า’ หลังพลเมืองตกเป็นเหยื่อ

มาตรการใหม่นี้ถูกมองว่าเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันในประเทศ หลังมีรายงานว่าพลเมืองเกาหลีใต้หลายสิบคนถูกล่อลวงไปทำงานในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษของกัมพูชา และตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์และ แก๊งคอลเซ็นเตอร์

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าดำเนินการล่าช้าเกินไปในการช่วยเหลือผู้เสียหายและจัดการกับเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ทำให้ครั้งนี้กรุงโซลเลือกใช้แนวทางที่รุนแรงกว่าการทูต โดยหันมาใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อสกัดเส้นทางทุนของกลุ่มอาชญากร

สหรัฐฯ–อังกฤษ คว่ำบาตร Prince Group และ Huione Group ตัวอย่างก่อนหน้า

เพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเพิ่งประกาศคว่ำบาตรกลุ่มบริษัท Prince Group และ Huione Group ในกัมพูชา ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ การค้ามนุษย์ การฟอกเงิน และอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดใหญ่

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กำหนดให้ Prince Group เป็น “องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (Transnational Criminal Organization)” พร้อมฟ้องร้อง เฉิน จื้อ (Chen Zhi) ซีอีโอชาวจีน ในข้อหาฉ้อโกงทางการเงินออนไลน์และฟอกเงิน ขณะที่ Huione Group ถูกตัดออกจากระบบการเงินสหรัฐฯ ทั้งหมด

ตำรวจเกาหลีใต้ขยายสอบสวนเชื่อมโยงบริษัทในประเทศ

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ยู แจ-ซอง รักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่ากำลังตรวจสอบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับบริษัทในเครือของ Prince Group ที่อาจดำเนินกิจการในเกาหลีใต้ เพื่อพิจารณาว่าจะเปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการหรือไม่

หากมาตรการคว่ำบาตรถูกนำมาใช้จริง จะถือเป็น การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายครั้งสำคัญ ของเกาหลีใต้ จากเดิมที่มักพึ่งพาการเจรจาทางการทูต มาเป็นการใช้มาตรการทางการเงินเชิงรุกเพื่อจัดการกับอาชญากรรมข้ามชาติ

เตรียมขยายการตรวจสอบธุรกรรมคริปโตในอาเซียน

นอกจากการคว่ำบาตรธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัมพูชาแล้ว หน่วยงาน FIU ยังมีแผนขยายการตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินในรูปแบบ สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในสิ้นปีนี้ โดยจะร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลการเงินของประเทศอาเซียน เพื่อสร้างระบบติดตามและป้องกันการเคลื่อนย้ายเงินผิดกฎหมายระหว่างประเทศ

ท่าทีใหม่ของเกาหลีใต้ สะท้อนบทบาทผู้นำภูมิภาค

นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงมองว่า การคว่ำบาตรครั้งนี้อาจสะท้อนท่าทีใหม่ของเกาหลีใต้ที่ต้องการยกระดับบทบาทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในด้าน ความมั่นคงดิจิทัล (Cybersecurity) และการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะกรณีการค้ามนุษย์และแรงงานบังคับที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมออนไลน์ในกัมพูชา


📰 อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ The Mainstream

โจรบุก “พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์” ขโมยเครื่องประดับนโปเลียน มูลค่าประเมินไม่ได้

แม่ทัพภาค 4 รู้ตัวแล้ว กลุ่มปล้นทอง 600 บาท มีคน 2 สัญชาติเอี่ยว