ทรัมป์ ยันไมตรี ทาคาอิจิ – พร้อมรับสายทุกเมื่อ แม้สัมพันธ์จีน–ญี่ปุ่นยังตึงเครียด

ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยโทรคุยกับโดนัลด์ ทรัมป์ โดยผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันความสัมพันธ์ใกล้ชิดและเปิดให้ติดต่อได้ทุกเมื่อ ขณะเดียวกันยังย้ำว่าสหรัฐฯ-จีนมีสัมพันธ์แข็งแกร่ง


วันนี้ (25 พฤศจิกายน) ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่าได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดในภูมิภาคจากประเด็นไต้หวัน โดยผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ญี่ปุ่นสามารถติดต่อเขาได้ทุกเมื่อ พร้อมย้ำความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังคง “แข็งแกร่ง” แม้มีข้อพิพาทด้านความมั่นคงระหว่างจีนกับญี่ปุ่นก็ตาม การสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลโตเกียวเผชิญแรงกดดันจากถ้อยคำในสภาของทาคาอิจิที่จุดประเด็นอ่อนไหวด้านยุทธศาสตร์


ผู้นำญี่ปุ่นเผยทรัมป์ย้ำความเป็น ‘เพื่อนสนิท’ และเปิดสายตรงตลอดเวลา


ทาคาอิจิ ให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนว่า การพูดคุยครั้งล่าสุดเป็นไปอย่างเป็นกันเอง โดยทรัมป์แสดงท่าทีชัดเจนว่าเขากับผู้นำญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด และยินดีให้เธอ “โทรหาได้ทุกเมื่อ” เพื่อประสานงานด้านความมั่นคงหรือหารือประเด็นทวิภาคีสำคัญของสองประเทศพันธมิตรเก่าแก่

ทาคาอิจิระบุอีกว่า การพบกันครั้งล่าสุดระหว่างทั้งสองผู้นำได้ช่วยยืนยันความร่วมมือด้านความมั่นคงที่เป็นรากฐานของพันธมิตรสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเสาหลักของโครงสร้างอำนาจในเอเชียแปซิฟิก ความพร้อมของทรัมป์ในการเปิดช่องทางสื่อสารโดยตรงถูกมองว่าเป็นสัญญาณบวกในช่วงที่โตเกียวต้องการความมั่นใจจากวอชิงตันมากขึ้นกว่าปกติ


ความเงียบของสหรัฐฯ ต่อปมไต้หวันเพิ่มแรงกดดันโตเกียว


แม้มีการสนทนาที่ยืนยันสัมพันธ์อันดี แต่ทาคาอิจิเผยว่า ทรัมป์ ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นไต้หวัน ซึ่งเป็นหัวใจของความตึงเครียดระหว่างจีนกับญี่ปุ่น โดยเฉพาะหลังคำตอบในสภาของเธอที่ระบุว่า ญี่ปุ่น “ต้องปกป้องไต้หวัน” หากเกิดสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้กำลังทางทหารหรือเรือรบ

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ความไม่กล่าวถึงไต้หวันจากฝั่งสหรัฐฯ ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นกังวลว่า วอชิงตันอาจไม่สนับสนุนจุดยืนแข็งกร้าวของทาคาอิจิอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ ยังต้องรักษาผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์กับจีนในหลายด้าน ซึ่งทำให้โตเกียวต้องเดินเกมอย่างระมัดระวังท่ามกลางความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น


สหรัฐฯ ขยายสัญญาณว่าความสัมพันธ์กับจีนยัง “แข็งแกร่งอย่างยิ่ง”


หนึ่งในประเด็นที่สร้างความสนใจคือถ้อยคำของทรัมป์ที่ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังคง “แข็งแกร่งอย่างยิ่ง” แม้สื่อหลายสำนักประเมินว่า การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองมหาอำนาจยังคงทวีความเข้มข้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และความมั่นคง

ถ้อยคำดังกล่าวสะท้อนแนวทางของสหรัฐฯ ที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างการขัดแย้งกับจีนในบางมิติ กับการประคับประคองความร่วมมือในประเด็นจำเป็น เช่น เศรษฐกิจโลกและความมั่นคงทางทะเล ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ทรัมป์เลือกหลีกเลี่ยงการแตะเรื่องไต้หวันในการสนทนากับทาคาอิจิ

สทนช.เตือนน้ำท่วมหาดใหญ่ทะลุตลิ่ง 2.2 เมตร หลังเจอฝนหนักที่สุดในรอบ 300 ปี

“อนุทิน” ป้อง “ธรรมนัส” ถูกวิจารณ์ลงพื้นที่ไร้แผนงาน ยันรับบาลไม่ได้รับมือช้า!