จีน เจอปัญหานมล้นตลาด จากภาวะเศรษฐกิจโตต่ำ ทำให้ผู้บริโภคต้องใช้จ่ายอย่างประหยัด ร่วมกับอัตราการเกิดที่น้อยสุดในประวัติการณ์ ทำอุปสงค์ผลิตภัณฑ์นมลดลง
วันที่ 20 กันยายน 2024 รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่าจีนกำลังจมอยู่กับน้ำนมที่ล้นตลาด จากอัตราการเกิดที่ต่ำลงและผู้บริโภคที่ประหยัดมากขึ้น อีกทั้งการส่งออกที่มีข้อจำกัด ทำให้เกษตรกรรายย่อยจำนวนมากต้องเลิกกิจการ หรือลดขนาดการทำปศุสัตว์ลง อันเป็นผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจ จากการขับเคลื่อนความมั่นคงด้านอาหารของรัฐบาลจีน ซึ่งเริ่มขึ้นในปี 2018
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (National Bureau of Statistics of China) จีนมีการบริโภคนมเฉลี่ยอยู่ที่คนละ 12.4 กิโลกรัมในปี 2022 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่มีการเผยข้อมูล ลดลงจากคนละ 14.4 กิโลกรัมในปี 2021
ส่วนในภาคการผลิต จีนมีผลผลิตน้ำนมพุ่งขึ้นใกล้เคียง 42 ล้านตันในปี 2023 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 30.39 ล้านตันในปี 2017 และมากกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ 41 ล้านตันในปี 2025
จะเห็นได้ว่าจีนมีการบริโภคลดลง แต่การผลิตกลับเพิ่มขึ้น ทำให้มีราคานมลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2022 จนต่ำกว่าต้นทุนการผลิตโดยเฉลี่ยที่ 3.8 หยวน (ราว 17.81 บาท) ต่อกิโลกรัม
โมเดิร์นแดรี่ (Modern Dairy) ผู้ผลิตรายใหญ่เจ้าหนึ่งในจีนรายงานว่าได้ลดจำนวนปศุสัตว์โคนมลงครึ่งหนึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 และมียอดขาดทุนสุทธิ 207 ล้านหยวน (ราว 961.32 ล้านบาท)
การส่งออกในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 จีนส่งออกผลิตภัณฑ์นม 55,100 ตัน เพิ่มขึ้น 8.9% จากปีก่อน แต่ยังถือว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผลผลิตส่วนที่ล้นเกิน
ส่วนการนำเข้า กรมศุลกากรจีน (China Customs) รายงานว่า จีนนำเข้าผลิตภัณฑ์นมลดลง 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) เหลือ 1.75 ล้านเมตริกตันตลอดแปดเดือนแรกของปี 2024 โดยนมผงซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามากที่สุด ลดลง 21% เหลือ 620,000 ตัน
นอกจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงแล้ว อัตรากากรเกิดที่น้อยลงยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์นมผง ด้วยอัตราการเกิดของจีนในปี 2023 ที่ 6.39 ต่อประชากร 1,000 คน ต่ำเป็นประวัติการณ์ ลดลงจาก 12.43 ในปี 2017
เอทูมิลค์ (A2 Milk) บริษัทของนิวซีแลนด์ ซึ่งจำหน่ายนมผงสำหรับทารกในจีน เปิดเผยเมื่อเดือนสิงหาคมว่า ตลาดนมผงสำหรับทารกในจีนลดลง 8.6% ด้านปริมาณ และด้านมูลค่าลดลง 10.7% ในปีงบประมาณ 2024 ที่สิ้นสุดในเดือนมิถุนายน และอาจลดลงอีกในปี 2025
จีนมีการบริโภคนมสดคิดเป็น 80% ของการบริโภคผลิตภัณฑ์นม ทำให้ภาคอุตสาหกรรมนมยังคงต้องดิ้นรน มอบความรู้ให้ผู้บริโภคเปลี่ยนจากการดื่มนมมาเป็น “การกินนม” เพื่อพัฒนาตลาดสำหรับชีส ครีม และเนย ซึ่งจะเปลี่ยนนมให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานขึ้น ตามคำเรียกร้องของรัฐบาลจีนในปี 2018 แต่ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายจากการรัดเข็มขัดของผู้บริโภค
สมาคมผลิตภัณฑ์นมของจีน (China Dairy Association) กล่าวว่า เพื่อจัดการกับผลผลิตส่วนเกิน ผู้ผลิตในจีนจึงเปลี่ยนนมดิบเป็นผง จนทำให้เกิดผลผลิตส่วนเกินมากกว่า 300,000 ตันในสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปีก่อน
ทั้งนี้ จีนยังพยายามส่งออกนมผงเต็มไขมัน (whole milk powder) อีกด้วย แต่ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ปนเปื้อนเมลามีนได้ลดทอนศักยภาพที่จีนควรจะทำได้ นักวิเคราะห์จากสโตนเอ๊กซ์ (StoneX) กล่าวว่า แม้กระทั่งผู้บริโภคชาวจีนเองก็ยังชอบแบรนด์ต่างประเทศมากกว่า ทั้งที่รัฐบาลจีนได้ปรับปรุงกฎระเบียบด้านอาหารและเพิ่มความเชื่อมั่นแล้วก็ตาม
ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติธุรกิจ