บริษัทยุโรปถูกนักวิเคราะห์ปรับลดประมาณการกำไรในไตรมาส 3 ลงแรง ยักษ์ใหญ่แอลวีเอ็มเอช (LVMH) นำทีมเจ็บ รายงานยอดขายลดลง ทั้งยุโรปเฝ้ารอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนช่วยพยุง
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2024 ว่า ในสัปดาห์นี้นักวิเคราะห์ได้ปรับลดประมาณการผลกำไรของบริษัทยุโรปลงในอัตรามากที่สุดในรอบ 7 เดือน ทำให้มาตรฐานผลการดำเนินงานต่ำลงจนบรรลุได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ด้วยมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก อาจช่วยป้องกันไม่ให้หุ้นได้รับผลกระทบรุนแรงมากนัก
จากฐานข้อมูล I/B/E/S ของลอนดอน สต๊อก เอ็กซ์เชนจ์ กรุ๊ป (London Stock Exchange Group-LSEG) กลุ่มธุรกิจให้บริการข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานตลาดการเงินระดับโลก ผลประกอบการของบริษัทยุโรปในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ถูกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.7% จากปีก่อนหน้า (YOY) ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยการเติบโตของภาควัตถุดิบ การเงิน และสาธารณูปโภค
อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนการปรับลดต่อการปรับเพิ่มประมาณการผลกำไรของบริษัทยุโรปของนักวิเคราะห์นั้น ขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่เศรษฐกิจในยุโรปต้องดิ้นรนที่จะสร้างการเติบโตให้มากพอ
เฟรเดริก แคเรียร์ (Frederique Carrier) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนที่อาร์ซีบี เวลท์เมเนจเมนต์ (RBC Wealth Management) กล่าวว่า ความคาดหวังลดลงมาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเศรษฐกิจอ่อนแอร่วมด้วย แต่ถ้าตัวเลขผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าที่คาดไว้ ก็คาดว่าตลาดจะตอบสนองค่อนข้างดี
ยักษ์ใหญ่จากยุโรปอย่างแอลวีเอ็มเอช (LVMH) เครือธุรกิจลักเซอรี่ของฝรั่งเศส รวมถึงบริษัทลูกอย่างคริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior) เผยแพร่ผลประกอบการของไตรมาส 3 ออกมาในสัปดาห์นี้ ซึ่งพบว่ายอดขายอ่อนแอ ทำให้หุ้น LVMH ร่วงลง 6% ในวันที่ 16 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่ร่วงลงมากที่สุดในรอบปี
เมื่อวันอังคารที่ 15 ตุลาคม อาเอสเอ็มแอล (ASML) บริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ผลิตชิปรายใหญ่ของโลกจากเนเธอร์แลนด์ รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ดีกว่าคาด แต่ได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายในปีหน้าลง ทำให้เกิดการเทขายหุ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นของเอเอสเอ็มแอลปิดตลาดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ด้วยสถิติร่วงลงแรงสุดในรอบ 26 ปี นับตั้งแต่ปี 1998
ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทที่มีผลการดำเนินงานต่ำกว่าประมาณการถูกตลาดลงโทษรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าในไตรมาสนี้จะต่างออกไป เนื่องจากนักลงทุนมองภาพรวมการเติบโตทางเศรษฐกิจในแง่ดีขึ้น
จอร์จ เดบบาส (Georges Debbas) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หุ้นและอนุพันธ์ยุโรปของบีเอ็นพี พารีบาส์ (BNP Paribas) กล่าวว่า นักลงทุนกำลังมีความสุขกับการมองข้ามจุดอ่อนของเศรษฐกิจจีน เพราะจีนเป็นตลาดสำคัญต่อหลายภาคธุรกิจของยุโรป และรัฐบาลจีนเพิ่งประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาหลายชุด
หลาน โฝอัน (Lan Fo’an) รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจีนรับปากว่ารัฐบาลจีนจะประกาศมาตรการการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในการแถลงข่าวของกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงระมัดระวังจนกว่าจะเห็นแผนรายละเอียด รวมถึงขนาดของมาตรการกระตุ้น
เศรษฐกิจของจีนสำคัญต่อบริษัทยุโรปอย่างมาก เนื่องจากบริษัทยุโรปพึ่งพาการส่งออกไปยังจีน มากกว่าบริษัทคู่แข่งจากสหรัฐที่สามารถสร้างรายได้จากตลาดในประเทศซึ่งมีขนาดกว้างใหญ่
โจเซฟิน เซตติ (Josephine Cetti) หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของนอร์เดีย (Nordea) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินในกลุ่มนอร์ดิกกล่าวว่า นักลงทุนมีความหวังว่ามาตรการกระตุ้นของจีนจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของหลายบริษัทที่เผชิญความลำบากจากการบริโภคที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม เซตติไม่คิดว่าบริษัทต่าง ๆ จะปรับเปลี่ยนประมาณการใด ๆ จนกว่าจะเห็นมาตรการอย่างเป็นรูปธรรม

ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติธุรกิจ