สี จิ้นผิงหยอดคำหวาน BRICS สำคัญอันดับ 1 ของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา 

สี จิ้นผิง ผู้นำจีนยกย่องความร่วมมือของบริกส์ในฐานะเวทีที่มีความสำคัญที่สุดในการแสดงความสามัคคีของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา ขณะเดียวกันโชว์ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างจีนและรัสเซีย ในห้วงการประชุมผู้นำบริกส์ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ

วันที่ 23 ตุลาคม 2567 รอยเตอร์ (Reuters) และบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดการประชุมผู้นำบริกส์ (BRICS) ยกย่องความร่วมมือในกลุ่มบริกส์เป็นกรอบความร่วมมือที่มีความสำคัญที่สุดในการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา ในการประชุมที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ ในเมืองคาซาน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เข้าร่วมงานคอนเสิร์ตในระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อ 22 ตุลาคม (รอยเตอร์)

สีกล่าวถึงความร่วมมือในกลุ่มบริกส์  (BRICS) ซึ่งคือกรอบความร่วมมือของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีสมาชิกได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้ เอธิโอเปีย อียิปต์ อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์   

“บริกส์เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่สุดสำหรับความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาในโลกทุกวันนี้” ผู้นำจีนกล่าว

ประธานาธิบดีจีนยังกล่าวอีกว่า บริกส์เป็นพลังหลักในการส่งเสริมความเท่าเทียมและเป็นระเบียบโลกหลายขั้ว ตลอดจนโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและอดทนอดกลั้นต่อความแตกต่างให้เป็นจริงขึ้นมา

นอกจากนี้ประธานาธิบดีสียังได้กล่าวยกย่องความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซีย

“ในปัจจุบัน โลกกำลังเคลื่อนผ่านความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบ 100 ปี สถานการณ์โลกถูกยึดโยงด้วยความโกลาหลวุ่นวาย” สีกล่าว “แต่กระผมเชื่อมั่นอย่างหนักแน่นว่า มิตรภาพระหว่างจีนและรัสเซียจะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายชั่วคน และความรับผิดชอบของผืนแผ่นดินอันยิ่งใหญ่ต่อประชาชนของพวกเขาจะไม่แปรเปลี่ยน” สีกล่าวต่อ

วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ต้อนรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ระหว่างพิธีต้อนรับก่อนมื้ออาหารค่ำ เมื่อ 22 ตุลาคม (รอยเตอร์)

รัสเซีย ซึ่งทำสงครามในยูเครนที่มีสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโตส่งอาวุธให้ และจีนตกอยู่ภายใต้ความกดดันจากการดำเนินการของสหรัฐที่จะตอบโต้กองทัพที่เติบโตขึ้น รวมถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ดังนั้นสองประเทศนี้จึงมีเหตุผลทางภูมิรัฐศาสตร์เหมือนกัน

สหรัฐถือว่าจีนเป็นคู่แข่งที่ใหญ่ที่สุด และรัสเซียเป็นภัยคุกคามหมายเลขหนึ่ง  และโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า ประชาธิปไตยเผชิญความท้าทายจากเผด็จการอย่างจีนและรัสเซีย

ขณะที่ไบเดนเรียกสี จิ้นผิงว่า เผด็จการ และเรียกวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียว่าฆาตกร แต่ปูติน ใช้สรรพนามเรียกสีว่า เดียร์เฟรนด์ หรือสหายรัก พร้อมกล่าวว่า ความเป็นหุ้นส่วนกับจีนเป็นพลังเพื่อเสถียรภาพโลก

ทางด้านปูตินกล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างรัสเซีย- จีนในสถานการณ์โลกคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สร้างเสถียรภาพบนเวทีโลก

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สีและปูตินให้คำมั่นถึงยุคใหม่ของความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสองประเทศที่ต่างเป็นคู่แข่งทรงอิทธิพลของสหรัฐ ซึ่งทั้งจีนและรัสเซียมองว่าสหรัฐเป็นผู้ครอบงำโลก สงครามเย็นที่ก้าวร้าวทำให้โลกปั่นป่วนไปทั่ว

ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจรายงานเพิ่มเติมว่า การประชุมผู้นำบริกส์ครั้งนี้นับเป็นการประชุมครั้งแรกนับตั้งแต่มีการขยายจำนวนสมาชิกเมื่อต้นปีนี้ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อิหร่าน ซาอุดีอาระเบีย เอธิโอเปีย และอียิปต์ และสำหรับไทยได้ยื่นสมัครเข้าเป็นสมาชิก และคาดว่าจะมีการหารือถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ ซึ่งในโอกาสนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีในการประชุมในเซสชั่นต่าง ๆ ที่มีการเปิดให้เข้าร่วม

ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติธุรกิจ

ทำไมเศรษฐกิจเวียดนามถึงแกร่งสุดในอาเซียน

ทีมหาเสียงทรัมป์ร้อง FEC กล่าวหาพรรคแรงงาน UK แทรกแซงเลือกตั้ง