พรรคเสรีประชาธิปไตยและพรรคร่วมเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในรอบ 15 ปี ทำให้ญี่ปุ่นเผชิญความไม่แน่นอนทางการเมืองครั้งใหญ่ สะท้อนประชาชนยังคงโกรธแค้นจากปัญหาการระดมเงินพรรค ด้านอิชิบะแสดงเจตจำนงต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
วันที่ 28 ตุลาคม 2024 นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) และบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในญี่ปุ่นว่า พรรคเสรีประชาธิปไตยและพรรคร่วมรัฐบาลสูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009 หรือในรอบ 15 ปี ในการเลือกตั้งก่อนกำหนด ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวาน ( วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม) ทำให้ญี่ปุ่นเผชิญความไร้เสถียรภาพทางการเมืองครั้งใหญ่และเกิดความไม่แน่นอนต่อรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ที่เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้ไม่ถึงเดือน
ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) นำโดยอิชิบะและพรรคโคเมโตะ (Komeito) ได้ที่นั่งในสภาล่างรวมกัน 215 ที่นั่ง ขาดไปจำนวน 18 ที่นั่ง หรือต้องการ 233 ที่นั่งจึงจะสามารถรักษาเสียงส่วนใหญ่ไว้ได้ในสภาผู้แทนราษฎรที่มี 465 ที่นั่ง ขณะที่พรรคฝ่ายค้านได้ 235 ที่นั่ง ทำให้ในสถานการณ์นี้ คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะเริ่มแข่งกันกันจัดตั้งรัฐบาลผสมเสียงข้างมาก แต่ไม่ว่าจะจัดตั้งรัฐบาลสูตรไหน ก็มีแนวโน้มจะได้รัฐบาลที่อ่อนแอ
แกนนำพรรคฝ่ายค้านอย่าง พรรครัฐธรรมนูญประชาธิปไตย (CDP) ได้ที่ 1 ในแง่จำนวนสส.เพิ่มขึ้นมากที่สุด ได้ 148 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจาก 98 ที่นั่ง ขณะที่พรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน (DPP) เพิ่มอีก 7 ที่นั่ง สู่ 28 ที่นั่ง ท่ามกลางความโกรธแค้นของประชาชนต่อพรรครัฐบาลอย่างแอลดีพีในประเด็นอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับการระดมเงินทุนของพรรคที่พัวพันถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคหลายสิบคน
ก่อนการเลือกตั้ง แอลดีพีมีที่นั่ง 247 ที่นั่ง ลำพังพรรคเดียวเพียงพอสำหรับเสียงข้างมาก และพรรคโคเมโตะมี 32 ที่นั่ง สองพรรคนี้รวมกันมีสัดส่วนที่นั่งสส. 60 เปอร์เซนต์ของจำนวนสส.ทั้งหมด นอกจากนี้คาดว่า แอลดีพีและโคเมโตะจะยังคงรักษาเสียงข้างมากในวุฒิสภาหรือสภาสูงไว้ได้ ในการเลือกตั้งปีหน้า
การเดิมพันของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ (Shigeru Ishiba) ในการเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนดกลับกลายเป็นผลเสีย จากผลการเลือกตั้งเห็นได้ชัดว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงโทษพรรคแอลดีพี หลังจากแอลดีพีมีการเปิดเผยว่าสมาชิกพรรคได้แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวจากผู้สนับสนุนที่ให้เงินอย่างลับๆ
อิชิบะกล่าวกับสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค (NHK) ว่า สถานการณ์ร้ายแรงอย่างมาก และไม่คิดว่า พรรคได้รับความเข้าใจจากประชาชน ซึ่งยังคงโกรธแค้นจากปัญหาการระดมเงินพรรคที่เกิดจากสส.พรรคจำนวนหนึ่ง
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า อิชิบะ ซึ่งขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ห้ามไม่ให้สมาชิกสส.บางคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวลงสมัครรับเลือกตั้งในนามผู้สมัครพรรคแอลดีพี โดยมีเป้าหมายเพื่อยืนยันอำนาจของเขาและเพื่อเรียกคืนความไว้วางใจจากประชาชนอีกครั้ง ทำให้10 คนลงสมัครในนามผู้สมัครอิสระ โดยมีผู้สมัครที่ถูกไล่ออกจากพรรคอีก 2 คนลงสมัครด้วย
ในสถานการณ์นี้ พรรคแอลดีพีจะต้องหาพรรคร่วมหรือบริหารจัดการรัฐบาลในฐานะรัฐบาลพรรคผสมเสียงข้างน้อย ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ รัฐสภา (Diet) จะเรียกประชุมสมัยพิเศษเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีภายใน 30 วันหลังจากการเลือกตั้ง
ในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์อาซาฮี (TV Asahi) อิชิบะกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะดึงพรรคใหม่เข้าร่วม แต่อาจต้องใช้เวลาและการเจรจาต่อรองที่หนักหนา อีกทั้งอิชิบะยังแสดงเจตจำนงที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป แต่ขณะนี้พรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน (DPP) และอีกพรรคฝ่ายค้านปฏิเสธเข้าร่วมรัฐบาลพรรคผสมที่มีแอลดีพีเป็นแกนนำจัดตั้ง
ผลลัพธ์ดังกล่าวอาจทำให้แนวโน้มนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซับซ้อนขึ้น ธนาคารกลาง ซึ่งกำลังพยายามหาจังหวะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งนั้น ถูกคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 31 ตุลาคมนี้
“พรรค LDP พ่ายแพ้อย่างยับเยิน” ทาเคชิ มินามิ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยโนรินชูคิน (Norinchukin) กล่าว โดยเขามองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้จะเป็นแนวโน้มหลักที่อาจเกิดขึ้น แต่ปัญหาคือ ธนาคารญี่ปุ่นกล่าวว่าจะไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยในขณะที่ตลาดอยู่ในภาวะปั่นป่วน และผลกระทบจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐยังต้องรอดูกันต่อไป ดังนั้นความไม่แน่นอนในตลาดจึงเพิ่มมากขึ้น

ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติธุรกิจ