ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ยืนยันไม่ลาออกจากตำแหน่ง แม้นายกรัฐมนตรี มิเชล บาร์นิเยร์ ทีตัวเขาแต่งตั้งขึ้นถูกลงมติไม่ไว้วางใจจากสภา ทำให้ต้องลาออกจากตำแหน่งไป

ระหว่างการแถลงอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส แสดงความหวังว่าจะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ภายในไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากรัฐสภาลงมติไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี มิเชล บาร์นิเยร์ ทำให้ต้องลาออกจากตำแหน่ง

โดย ประธานาธิบดี มาครงยืนยันจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระในเดือน พ.ค.ปี 2027 พร้อมทั้งกล่าวโทษพรรคฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาจัด ว่าร่วมมือกันโค่นล้มรัฐบาลของบาร์นิเยร์ 

สภาวะทางตันในการเมืองฝรั่งเศสรอบล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจาก พรรค “ฟรานซ์ อันโบลด์” (France Unbowed – LFI) ฝ่ายซ้ายจัด กับพรรคขวาจัด“เนชันแนล แรลลี” (National Rally-RN) ของ มารีน เลอ เปน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค.หลังจากบาร์นิเยร์พยายามใช้อำนาจพิเศษ ผ่านกฎหมายงบประมาณประจำปี โดยข้ามขั้นตอนการลงมติของรัฐสภา

เมื่อวันพุธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ร่วมมือกันสนับสนุนญัตติไม่ไว้วางใจ ด้วยคะแนนเห็นชอบ 331 เสียง จากทั้งหมด 577 เสียง ทำให้บาร์นิเยร์ถูกบังคับให้ลงจากตำแหน่ง  แต่จะทำหน้าที่รักษาการต่อไปก่อน จนว่าจะมีการแต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่ายังมีความเป็นไปได้น้อยที่สถานการณ์ของ ประธานาธิบดี มาครง จะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะไม่ว่าจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งแบ่งเป็น 3  ขั่วคือ คือฝั่งของประธานาธิบดีมาครงกับกลุ่มฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา  ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีจุดยืนต่อต้านผู้นำฝรั่งเศส

ข้อมูล/ภาพ : พีพีทีวี