ถึงเวลารื้อ กสทช. ทั้งระบบ? รักชนก จี้รัฐตอบหลังเหตุเตือนภัยล่าช้า

เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในไทยเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากตั้งคำถามถึงความล่าช้าในการแจ้งเตือน โดยหนึ่งในเสียงวิพากษ์ที่ชัดเจนที่สุดมาจาก น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ซึ่งโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเรียกร้องให้ ปฏิรูป กสทช. ทั้งระบบ พร้อมเปิดประเด็นปัญหาหลายด้านที่สะสมมานาน ตั้งแต่ที่มาขององค์กร ไปจนถึงพฤติกรรมที่ไม่ตอบโจทย์ประชาชน

รักชนกชี้ กสทช. ไม่ยึดโยงกับประชาชน

รักชนก ศรีนอก ระบุว่า กสทช. เป็นองค์กรที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน ทั้งที่กฎหมายกำหนดให้มีความเป็นอิสระ เพื่อทำหน้าที่โดยไม่ต้องเกรงใจฝ่ายการเมืองหรือกลุ่มทุน แต่กลับพบว่ามีบางคนในองค์กรถูกครอบงำโดยกลุ่มทุนจากค่ายมือถือ

เธอชี้ว่า ที่ผ่านมาผลงานของ กสทช. สะท้อนถึงการขาดความรับผิดชอบต่อสาธารณะ และไม่สามารถปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนได้อย่างแท้จริง

ปัญหาสะสม 5 ข้อ จากการทำงานของ กสทช.

รักชนกแจกแจงประเด็นที่ควรถูกตั้งคำถามต่อการทำงานของ กสทช. ไว้อย่างชัดเจน 5 ข้อ ได้แก่

1.การปล่อยให้เกิดการควบรวมค่ายมือถือ

แม้ตลาดผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในไทยจะมีผู้เล่นน้อยอยู่แล้ว แต่ กสทช. กลับปล่อยให้เกิดการควบรวมกิจการจนแทบกลายเป็นตลาดผูกขาด โดย ประธาน กสทช. เป็นเสียงชี้ขาด พร้อมอ้างว่า “ห้ามไม่ได้ แค่รับทราบได้อย่างเดียว”

2.มาตรการอ่อนแอในการจัดการซิมม้า–เบอร์ม้า

แม้จะรู้ว่าค่ายมือถือจงใจขายซิมให้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ แต่ก็ไม่มีการดำเนินการหรือบทลงโทษใด ๆ ค่ายมือถือไม่เคยถูกลงโทษ ซ้ำยังออกแพ็กเกจ “ป้องกันภัยไซเบอร์” มาหากินบนความเดือดร้อนของประชาชน

3.ความล่าช้าในการจัดการเสาสัญญาณชายแดน

เสาสัญญาณอินเตอร์เน็ตบริเวณชายแดนที่ถูกใช้โดยแก๊งคอลเซนเตอร์ ยังไม่มีความคืบหน้าในการจัดการอย่างเป็นรูปธรรม แม้จะทราบปัญหามาเป็นเวลานาน

4.การใช้เงินกองทุน กทปส. อย่างไม่โปร่งใส

กองทุน กทปส. ที่มีมูลค่าหลายพันล้านบาท กลายเป็น “บ่อเงินบ่อทอง” ที่ผู้มีอำนาจใช้จ่ายตามใจชอบ โดยไม่มีความโปร่งใสในการบริหารจัดการหรือการตรวจสอบ

5.เพิกเฉยต่อกรรมการที่ทำตามหน้าที่

กรณีของ “พิรงรอง รามสูต” ผู้มาจากสัดส่วนคุ้มครองผู้บริโภค ที่ถูกบริษัททรูฟ้องร้องด้วยข้อหา 157 แม้เธอทำหน้าที่ตามกฎหมาย แต่กลับไม่มีใครในบอร์ดหรือสำนักงานออกมาปกป้อง และยังซ้ำเติมเธอด้วย

แจ้งเตือนแผ่นดินไหวช้า จุดเดือดล่าสุด

เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม กลายเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้ประชาชนตื่นตัว และตั้งคำถามต่อระบบเตือนภัยของประเทศ เนื่องจากข้อความแจ้งเตือนภัยพิบัติมาถึงช้ากว่าที่ควร ทำให้ประชาชนไม่ได้รับข้อมูลทันเวลา

รักชนกระบุว่านี่คือ “การทำงานที่ล้มเหลวในระดับโครงสร้าง” และทำให้เกิดคำถามว่า กสทช. ยังควรดำรงอยู่ในรูปแบบเดิมหรือไม่

ที่มา กสทช. เชื่อมโยงกับ คสช.?

รักชนกตั้งคำถามว่า “ทำงานห่วยแบบนี้ ใครเลือกมา?” พร้อมให้คำตอบว่า กรรมการชุดก่อนมาจากรัฐบาล คสช. และ ชุดปัจจุบัน บางส่วนยังเกี่ยวข้องกับ คสช. โดยผ่านการรับรองจากวุฒิสภาชุดที่แล้ว

เธอย้ำว่า หากจะพูดว่า กสทช. มีที่มาจากการรัฐประหาร ก็คงไม่ผิดนัก เพราะองค์กรนี้ ไม่มียึดโยงใด ๆ กับประชาชน และแม้รัฐสภาจะไม่พอใจการทำงาน ก็ไม่สามารถถอดถอนได้ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้เปิดช่องไว้

รื้อโครงสร้างทั้งระบบ คือคำถามปลายเปิด

ท้ายโพสต์ รักชนกตั้งคำถามเชิงนโยบายว่า
“รัฐบาลจะยอมรับหรือยัง ว่าถึงเวลาแก้กฎหมาย เพื่อให้ กสทช. ยึดโยงกับประชาชน และรับใช้ประชาชนจริง ๆ เสียที”

เธอยืนยันว่า กสทช. เป็นอีกองค์กรที่ควรถูกรื้อ และ “ขุดรากถอนโคน” พร้อมทิ้งท้ายว่า
“รอเสร็จงานก่อน แล้วจะทยอยมาเขียนเล่าให้ฟังต่อ”

ในคอมเมนต์เพิ่มเติม เธอยังระบุว่า
“เรื่องนี้ต้องบอกว่าเข้าใจความโกรธนายกเลย เพราะมันน่าโมโหจริง ๆ!”

กสทช., แผ่นดินไหว, รักชนก ศรีนอก, ปฏิรูปองค์กร, การเมืองไทย

ข้อมูล/ภาพ : มติชน

กสทช.ยังไร้กรอบชัดเจน “Cell Broadcast” สะดุดขั้นตอนรัฐ

เจ้าหน้าที่ยุคทรัมป์ใช้แชต Signal อาจทำให้ทหารสหรัฐฯ เสี่ยงชีวิต วุฒิสมาชิกวอร์เนอร์เตือน