เปิดธุรกิจทำกำไรอู้ฟู่ “ม้ามืดตลอด 3 ปี” รบ.ลุ้นดันตลาดโลก

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์การจดทะเบียนช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค. 67) พบว่า ยังมีการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น มาจากหลายปัจจัยด้านความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การท่องเที่ยวที่คึกคัก ทั้งนี้ยังพบว่า “ธุรกิจร้านอาหาร” เป็นม้ามืดตลอด 3 ปีที่ผ่านมา สร้างรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 63,000 ล้านบาท และมีกำไรที่เพิ่มขึ้น

ซึ่งกรมฯ ส่งเสริมให้ธุรกิจร้านอาหารแข่งขันได้ทั้งยกระดับร้านอาหารไทยผ่านตราสัญลักษณ์ Thai SELECT และสร้างแบรนด์ให้ส่งต่อในรูปแบบแฟรนไชส์ได้

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยสถานการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือน ส.ค. 67 มีจำนวน 7,599 ราย เพิ่มขึ้น 175 ราย หรือ 2.36% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ทุนจดทะเบียน 17,649.67 ล้านบาท ลดลง 7,256.08 ล้านบาท หรือ 29.13% ทั้งนี้

เมื่อวิเคราะห์เชิงลึกพบว่าเดือน ส.ค. 66 มีธุรกิจตั้งใหม่จดทะเบียนทุนสูง 4,099.50 ล้านบาท ทำให้ทุนจดทะเบียนเดือน ส.ค. 67 “ลดลงผิดปกติ” แต่เมื่อไม่นับรวมธุรกิจที่จดทะเบียนสูงดังกล่าว ทุนจดทะเบียนเดือน ส.ค. 67 “ลดลงเพียงเล็กน้อย”อยู่ที่ 3,156.58 ล้านบาท คิดเป็น 15.17% ประเภทธุรกิจที่มีการจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร

การจัดตั้งธุรกิจใหม่สะสม 8 เดือนแรกของปี 67 (ม.ค.-ส.ค. 67)

มีจำนวน 61,819 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 261 ราย คิดเป็น 0.42% ทุนจดทะเบียน 186,432.87 ล้านบาท ลดลง 283,768.58 ล้านบาท คิดเป็น 60.35%

สืบเนื่องมาจากในปี 66 มีทุนจดทะเบียนสูงสุดในประวัติการณ์ เพราะมี 2 ธุรกิจที่ทุนจดทะเบียนเกิน 100,000 ล้านบาท ควบรวมและแปรสภาพ ทั้งนี้ 8 เดือนแรกมีประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 3 อันดับแรกยังคงเป็น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร

การจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการเดือน ส.ค. 67

มีจำนวน 2,063 ราย เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 56 ราย คิดเป็น 2.79% ทุนจดทะเบียน 13,813.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,775.91 ล้านบาท คิดเป็น 96.28% โดยเดือนนี้มีธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนเลิกเกิน 1,000 ล้านบาท คือ ธุรกิจโรงงานผลิตและจำหน่าย ให้เช่าเทปคาสเซ็ท แผ่นเสียง แถบบันทึกเสียงฯ ที่มีทุนจดทะเบียน 4,411.50 ล้านบาท

หากไม่รวมธุรกิจรายนี้ทุนจดทะเบียนเลิกประกอบธุรกิจเดือน ส.ค. 67 จะลดลงเพียง 2,364.41 ล้านบาท คิดเป็น 33.59%  สำหรับประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร

การจดทะเบียนเลิกสะสม 8 เดือนแรกของปี 67 (ม.ค.-ส.ค. 67)

มีจำนวน 9,992 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 979 ราย คิดเป็น 8.92% ทุนจดทะเบียนเลิกสะสมอยู่ที่ 99,393.33  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35,222.68 ล้านบาท คิดเป็น 54.89% ทั้งนี้ในเดือน พ.ค. 67 มีธุรกิจด้านโทรคมนาคมและการสื่อสาร 1 ราย ทุนจดทะเบียนกว่า 48,209.34 ล้านบาท จดทะเบียนเลิกกิจการ เป็นสาเหตุให้ตัวเลขทุนจดทะเบียนเลิก 8 เดือนแรกสูงกว่าปกติ

หากตัดธุรกิจดังกล่าวออกไปทุนจดทะเบียนเลิกจะอยู่ที่ 51,183.99 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนจำนวนการจดทะเบียนเลิก คิดเป็น 16.16% ของการจัดตั้งธุรกิจใน 8 เดือนแรก สะท้อนให้เห็นว่าจำนวนการจดทะเบียนเลิกใน 8 เดือนแรกของปี 67 มีสัดส่วนที่น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วน 17.82% ของการจัดตั้งธุรกิจ

การอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย 8 เดือนแรกของปี 67 (ม.ค.-ส.ค. 67)

มีจำนวน 535 ราย แบ่งเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 143 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 392 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 100,062 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 3 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา

ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา “ธุรกิจร้านอาหาร” เติบโตแบบก้าวกระโดด หลังผ่านช่วงโควิด-19 ในปี 64 สร้างรายได้ 179,645.68 ล้านบาท, ในปี 65 สร้างรายได้ 244,412.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.05% และปี 66 สร้างรายได้ 306,618.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.45% โดยสร้างรายได้เฉลี่ยปีละ 63,000 ล้านบาท

ขณะที่ 8 เดือนแรกของปีนี้มีธุรกิจร้านอาหารที่จัดตั้งใหม่ 2,847 ราย มูลค่าทุน 5,826.03 ล้านบาท มีนิติบุคคลที่จดทะเบียน 44,508 ราย มูลค่าทุน 220,916.70 ล้านบาท ส่วนใหญ่จดทะเบียนในรูปแบบบริษัทจำกัด รองลงมาคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด และห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลและบริษัทมหาชน จำกัด ตามลำดับ มีที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครมากที่สุด (เขตวัฒนา บางรัก และคลองเตย) รองลงมาตั้งอยู่ในภาคใต้ (ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และกระบี่) และภาคตะวันออก (ชลบุรี ระยอง และตราด)

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ส่งเสริมธุรกิจร้านอาหารให้แข่งขันได้ต่อเนื่อง โดยยกระดับมาตรฐานร้านอาหารไทยผ่านตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับร้านอาหารไทย ประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยว กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ควบคู่กับการเผยแพร่วัฒนธรรมผ่านอาหารไทย ปัจจุบันมีร้านอาหาร Thai SELECT ทั่วประเทศ 496 ร้าน

นอกจากนี้ยังพัฒนาให้ขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ ปัจจุบันมีแฟรนไชส์ร้านอาหารที่ผ่านการพัฒนาจากกรมฯ 248 ราย และก้าวสู่ตลาดต่างประเทศแล้ว 27 ราย ใน 31 ประเทศทั่วโลก

ข้อมูล/ภาพ : พีพีทีวี

ยายเข็นสามีป่วยติดเตียง เบิกเงิน 10,000 บาท หลังธนาคารบอกต้องมาเอง

เอปสันร่วมกับสยามเซ็นเตอร์เปิดบ้านต้อนรับยังดีไซเนอร์ในโครงการ Envisioning the Future of Fashion