สปป.ลาวจัดพิธีต้อนรับนายกฯ ร่วมแก้ปัญหาชายแดน-อาชญากรรมออนไลน์

แพทองธาร ถึง สปป.ลาว ร่วมมือ 2 ชาติแก้ปัญหาชายแดน อาชญากรรมออนไลน์ ยาเสพติด

วันที่ 8 ตุลาคม 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีโดยนางใบคำ ขัตติยะ รมว.แรงงานและสวัสดิการสังคม สปป.ลาว ให้การต้อนรับ สำหรับการเยือน สปป.ลาว ครั้งนี้ ถือเป็นการเยือนต่างประเทศ ในฐานะผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนอย่างเป็นทางการครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี

จากนั้นได้มีพิธีต้อนรับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการ ณ สานักงานนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นำนางสาวแพทองธาร เดินตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ

เวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเท่ากับเวลากรุงเทพฯ ณ สำนักงานนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมการหารือเต็มคณะกับนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว โดยมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไทยและ สปป.ลาว เป็นเพื่อนบ้านที่มีความเชื่อมโยงผูกพันและร่วมมือใกล้ชิด ทั้งนี้ ขอขอบคุณรัฐบาล สปป.ลาว ที่ถวายการต้อนรับสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี อย่างสมพระเกียรติ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และยินดีที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริใน สปป.ลาว มีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

พร้อมขอเชิญนายกรัฐมนตรี สปป.ลาวและภริยา เยือนไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากที่ต้องเลื่อนออกไป ซึ่งในปีหน้า ทั้งสองประเทศจะมีการจัดกิจกรรมครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยเน้นการมีส่วนร่วมในระดับประชาชนและท้องถิ่นให้มากที่สุด

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าวว่า ไทยและ สปป.ลาวเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด และมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์และความร่วมมือครอบคลุมทุกมิติ มีการหารือและแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในหลากหลายโอกาสอย่างสม่ำเสมอ การเดินทางเยือน สปป.ลาวอย่างเป็นทางการยังจะได้ติดตามประเด็นความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองได้หารือในประเด็นที่สนใจร่วมกัน ดังนี้ การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและปัญหาข้ามแดนที่สำคัญ โดยทั้งสองประเทศจัดลำดับความสำคัญ (Top Priorities) 5 ด้าน ได้แก่ 1.ยาเสพติด 2.Online Scams 3.การค้ามนุษย์ 4.หมอกควันข้ามแดน และ 5.การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง

ในเรื่องยาเสพติด หน่วยงานไทยและ สปป.ลาว ได้ร่วมกันจัดทำกรอบแนวทางเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาตามชายแดน ซึ่งเป็นผลจากการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน กับนายกรัฐมนตรีนายสอนไซ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทย เสนอจัดการประชุมระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดกับเจ้าแขวงชายแดน และหน่วยงานในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศในต้นปีหน้า เพื่อติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินการตามกรอบแนวทางดังกล่าว

Online Scams ไทยและลาวจริงจังและให้ความสำคัญในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรม Online Scams ขอให้ไทย-สปป.ลาว เร่งรัดการจัดตั้งคณะทำงานปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และ Online Scams ตามแนวชายแดนไทย-สปป. ลาว และให้มีการประชุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาให้คืบหน้าเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหา Online Scams เห็นควรให้ขยายผลเพื่อจับกุมและดำเนินคดีกับกลุ่มอาชญากรรมที่อยู่เบื้องหลัง ช่วยเหลือและส่งกลับผู้ที่ถูกหลอกลวงไปทำงานแล้ว และให้ผู้แทนตำรวจระดับสูงของไทยและลาวมีการหารือเพื่อนำไปสู่การปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้อย่างเด็ดขาดโดยเร็ว

ประเด็นหมอกควันข้ามแดน ยินดีที่ในเดือนตุลาคมนี้จะมีการเปิดตัวแผนปฏิบัติการภายใต้ CLEAR Sky Strategy ระหว่างไทย สปป.ลาว และเมียนมา ซึ่งในระยะต่อไปขอให้มีการเชื่อมโยง Database และ Early Warning System เกี่ยวกับคุณภาพและสภาพภูมิอากาศของไทย สปป.ลาว และประเทศในภูมิภาคเข้าด้วยกัน

การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง นายกรัฐมนตรึ ขอบคุณนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ที่ส่งสารแสดงความเสียใจเหตุการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของไทย พร้อมแสดงความเสียใจ และเป็นกำลังใจ สปป.ลาว ที่มีอุทกภัยในหลายแขวงด้วย ผู้นำทั้งสองยินดีที่จะมีการลงนาม MOU ด้านการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการระหว่างกันในวันนี้ และจะใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือต่าง ๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเพื่อการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้ ไทยและ สปป.ลาว จะเพิ่มพูนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงระหว่างกัน โดยเฉพาะการค้าการลงทุน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะสองฝั่งแม่น้ำโขง รวมทั้งความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวระหว่างกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไทยพร้อมพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และระบบสาธารณสุขในลาว ภายใต้แผนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ไทย-ลาว ระยะ 3 ปี (ค.ศ. 2022-2025) สำหรับความร่วมมือด้านแรงงานนั้น

นายกรัฐมนตรียืนยัน ไทยต้องการให้แรงงานต่างชาติทุกคนได้เข้าถึงสิทธิและบริการต่าง ๆ ในระหว่างที่ทำงานในไทย ขอให้ไทยและ สปป.ลาว ร่วมกันส่งเสริมให้แรงงานลาวเข้ามาทำงานในไทยโดยผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง พร้อมฝาก สปป.ลาว ดูแลคนไทย และการลงทุนของไทย ใน สปป.ลาว ด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชม สปป.ลาว ในฐานะประธานอาเซียน สำหรับบทบาทที่แข็งขันเกี่ยวกับเมียนมา ไทยในฐานะเพื่อนบ้านของเมียนมา จะร่วมมือกับอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมา โดยเฉพาะลาว จีน และอินเดีย เพื่อหาทางออกให้กับสถานการณ์ในเมียนมาโดยเร็ว พร้อมทั้งแสดงความยินดีต่อความสำเร็จในการทำหน้าที่ประธานอาเซียนในปีนี้

จากนั้น ผู้นำทั้งสองร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยและ สปป.ลาว จำนวน 6 ฉบับ และการส่งมอบผลการศึกษาและรายละเอียดการออกแบบโครงการก่อสร้างสะพานข้ามน้ำโขง เชียงแมน-หลวงพระบาง ดังนี้

1.บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ 2.บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองมิตรภาพ จังหวัดขอนแก่นกับนครหลวงเวียงจันทน์ 3.บันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือในการบริหารทรัพยากรบุคคล 4.บันทึกความเข้าใจ ระหว่างกรมการค้าภายใน กับ กรมมาตรฐานและวัดแทก 5.บันทึกการดำเนินการด้านเทคนิคสำหรับการขนส่งสินค้าทางรถไฟ และ 6.หนังสือแสดงเจตจำนง ระหว่างกรมทางหลวง และกรมขัวทาง

จากนั้น ณ ห้องเยี่ยมคารวะ ชั้น 1 หอคํา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยี่ยมคารวะนายทองลุน สีสุลิด (His Excellency Mr. Thongloun Sisoulith) ประธานประเทศ สปป.ลาว ในโอกาสเยือนอย่างเป็นทางการ พร้อมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติธุรกิจ

ภูมิธรรม ชี้นายกฯ ตั้ง ‘ณัฐวุฒิ‘ ถูกต้อง ลั่นไม่ใช่เรื่อง รบ. ‘เนวิน‘ พบ ’ทักษิณ‘

4EVE ติดอันดับ 12 เกิร์ลกรุ๊ปที่น่าจับตามองโดย GRAMMY AWARDS