นายกฯ นำประชุม คอส. หวังมีแผนแก้น้ำท่วมระยะยาว-วางแนวทางรับมือปีหน้า ผุด ครม.สัญจร เชียงใหม่-เชียงราย ต้น พ.ย.นี้ หวังกระตุ้นท่องเที่ยวเหนือ ดูฟื้นฟูหลังน้ำลด

วันที่ 15 ตุลาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ครั้งที่ 2/2567 (คอส.) โดยมีรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ในช่วงต้นการประชุม นายกรัฐมนตรีระบุว่า เรียกประชุมในวันนี้ อยากให้แก้ปัญหาระยะยาวได้จริง ๆ อย่างที่ได้ดูข้อมูลที่ถูกศึกษามาหลาย ๆ ที่ เช่น น้ำท่วม โคลนถล่ม จ.เชียงราย ปีหน้าก็คงจะมีปัญหาเหล่านี้อยู่ เป็นสิ่งที่รู้สึกร้อนใจที่สุดว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง เราอาจจะไม่สามารถหยุดมันได้เลย 100 เปอร์เซนต์ แต่วิธีรับมือที่ดีขึ้นจะทำอย่างไรบ้าง จะทำให้ปัญหาจบเร็วขึ้น อยากให้มาร่วมมือกันศึกษาอย่างจริงจัง มีเวลา 1 ปี ที่ปัญหาเดิม จะถึงในปีหน้า

ทั้งนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงาน ทั้งราชการ จิตอาสา ที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาในพื้นที่ และขอบคุณรัฐมนตรีทุกคนที่ลงพื้นที่อย่างใกล้ชิด ทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมที่ลงไปอยู่ในพื้นที่ และเตรียมพร้อมให้ประชาชนมั่นใจว่าประชาชนมีความอุ่นใจ

และมีหลาย ๆ ปัญหาที่รัฐมนตรีที่อยู่หน้างานสามารถแก้ไขได้ทันที และคลี่คลายไปได้เยอะแล้ว เมื่อเช้า (15 ต.ค.) ซึ่งประชุม ครม.พยายามจะทำให้ปัญหาเหล่านี้เสร็จปลายเดือนตุลาคมนี้ วันนี้มาประชุมรับทราบสถานการณ์ การช่วยเหลือเยียวยา และการป้องกันแก้ไข ที่ต้องรอรับในปีหน้าต่อไป

ขณะที่ จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุม คอส. ว่านายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุม ถึงกฎระเบียบการดำเนินการ หากเป็นเพียงข้อบังคับหรือกฎกติกาที่เป็นระเบียบ สามารถดำเนินการประกาศโดยกระทรวงได้ทันที ซึ่งเป็นการละเว้นชั่วคราวในการแก้ไขสถานการณ์ให้กับประชาชน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณคณะทำงานทั้งหมด โดยถือว่าการทำงานประสบความสำเร็จ แต่ได้กำชับให้มีการวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ โดยเขียนเป็นแผนแม่บท

นายจิรายุเปิดเผยอีกว่า ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร ในพื้นที่เกิดอุทกภัย เพื่อรับฟังแนวทางการแก้ปัญหา ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะเป็นจังหวัดเชียงใหม่หรือเชียงราย หรืออาจจะเป็นทั้ง 2 จังหวัด เพื่อไปดูการฟื้นฟูภายหลังน้ำลด และนำไปสู่การจัดทำแผนแม่บทป้องกันอุทกภัยในอนาคต นอกจากนี้ อาจจะมีการพิจารณาไปร่วมกันจัดกิจกรรมประเพณีลอยกระทงในพื้นที่ด้วย

ข้อมูล/ภาพ : ประชาชาติธุรกิจ