สรุปเหตุการณ์ ทรู ไอดี ฟ้อง ดร.พิรงรอง กสทช.

สภาองค์กรของผู้บริโภค รายงานว่าจากกรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน มีการนัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ ในคดีระหว่างฝ่ายโจทก์ คือ บริษัท ทรูดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด และจำเลย คือ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ กลายเป็นคดีที่ได้รับความสนใจและติดตามโดยสาธารณะชนจำนวนมากที่มีทั้งกลุ่มนักวิชาการ กลุ่มผู้บริโภค ผู้ประกอบการด้านทีวีดิจิทัล และสื่อมวลชล

ที่มาของคดี

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำสั่งชั้นไต่สวนคดีที่บริษัท ทรู ยื่นฟ้องศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง โดยการฟังคำสั่งในวันนั้นฝ่ายโจทก์มีทนายความเดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายจำเลยมีพนักงานอัยการเดินทางมาฟังคำสั่ง

ศาลมีคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องว่า จากการไต่สวนได้ความว่า โจทก์ (ทรู) เป็นผู้ประกอบกิจการ OTT (Over-the-Top ซึ่งเป็นบริการสื่อที่นำเสนอโดยตรงกับผู้รับบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต OTT ข้ามแพลตฟอร์มโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิลและโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม) เป็นการให้บริการที่ กสทช. ยังไม่มีประกาศหรือออกกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแล

และจำเลยทราบดีอยู่แล้วว่า การให้บริการของโจทก์ แม้จะถือว่าเป็นการให้บริการประเภท OTT ที่ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ทางไต่สวนมีเหตุให้เชื่อได้ว่า จำเลยเป็นผู้สั่งการให้รักษาการรองเลขาธิการ กสทช. ในขณะนั้น ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์จำนวน 127 ราย

มีข้อความว่า โจทก์เป็นผู้ประกอบกิจการที่ยังไม่ได้รับอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ ทำให้ผู้ได้รับอนุญาตเข้าใจว่าโจทก์เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้รับอนุญาตระงับเนื้อหารายการต่างๆ ที่โจทก์ส่งไปออกอากาศ

พฤติการณ์ของจำเลยส่อแสดงเจตนากลั่นแกล้งโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย ถือเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบมิชอบ คดีโจทก์มีมูล จึงให้ประทับฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.167/2566

อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง ยืนยันว่า การออกหนังสือเตือนของ กสทช. เป็นการทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาตามหลักเกณฑ์ Must Carry และดูแลลิขสิทธิ์เนื้อหาของผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ทั้งนี้ ไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อผู้ประกอบกิจการรายใดรายหนึ่งเป็นพิเศษ

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาให้ ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง จำคุก 2 ปี โดยระบุว่า บริษัท ทรูฯ เป็นกิจการ OTT ไม่มีใบอนุญาตจาก กสทช. และ กสทช.ยังไม่ออกแนวปฏิบัติว่า แพลตฟอร์ม OTT ต้องขอใบอนุญาตจาก กสทช. แตกต่างจากจากผู้ประกอบการ IPTV, ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ที่ประกอบกิจการแบบใช้โครงข่าย ซึ่งต้องขอใบอนุญาตจาก กสทช. และมีแนวปฏิบัติ

แต่การประชุม คณะอนุกรรมการฯ ที่ มี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง เป็นประธานได้แจ้งตรวจสอบ ทรูไอดี ที่เป็นแอปพลิเคชันบริการของเอกชน เพื่อตรวจสอบโฆษณาและเนื้อหาที่ให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ชอบเข้าข่ายจงใจกลั่นแกล้ง ตามที่โจทก์ให้การ

ล่าสุดศาลฯ ได้ให้ประกันตัววงเงิน 120,000 บาท พร้อมเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

ภาพ : themomentum

ศาลให้ประกัน “พิรงรอง” เจ้าตัวไม่ตอบสัมภาษณ์สื่อ

การเมืองปินส์ร้อน! รองปธน.เจอสภาผู้แทน ลงมติถอดถอน ส่งต่อวุฒิสภาชี้ชะตา เปิดไต่สวนได้มิ.ย