“ภูมิธรรม” เมินม็อบประท้วงมาตรการ “ตัดไฟ-น้ำมัน-เน็ต” ลั่นไม่มีผลกดดัน ชี้บอยคอตสินค้าไทยเสี่ยงขาดสินค้าอุปโภค เตรียมลุยปอยเปต 16 ก.พ. นี้ เล็งขยายพื้นที่คุมเข้มชายแดนสกัดโยงคอลเซ็นเตอร์
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน หลังประชาชนเมียนมาออกมาประท้วงไทยที่ตัดไฟฟ้า งดส่งน้ำมัน และตัดอินเทอร์เน็ต ว่า ขณะนี้ 3 ส่วน คือ กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายปกครองกระทรวงมหาดไทย ประสานการทำงานกันได้ดี ส่วนเหตุประท้วงตอนแรกตามข่าวจะมีคนจำนวนมาก แต่มาจริงไม่มาก การประท้วงเป็นเรื่องของเขาที่จะแสดงความไม่พอใจ แต่ไม่สามารถกดดันรัฐบาลไทยได้ เพราะรัฐบาลทำไปเพื่อแก้ปัญหาให้กับคนไทย เป็นเรื่องที่เขาต้องไปเคลียร์กับรัฐบาลเมียนมา
“เราทำครั้งนี้เพื่อให้เขาดำเนินการขับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ออกจากพื้นที่ และเรื่องชายแดนในวันนี้จะมีคำสั่งเรียกคนที่มีข้อกล่าวหาให้ออกจากพื้นที่ ส่วนการปิดชายแดนไม่รับสินค้าไทย เขาต้องไปไตร่ตรองเพราะต้องพึ่งสินค้าอุปโภคบริโภค หากไม่มีอาหารต้องดูแลตัวเอง เรายืนยันมาตรการของไทย และยึดปัญหาของประเทศไทยเป็นหลัก ต้องจัดการเรื่องนี้ให้ได้ผลเด็ดขาดที่สุด”
เตรียมลงพื้นที่พญาตองซู-ปอยเปต
นายภูมิธรรม กล่าวต่อไปว่า วันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ จะเดินทางไปเมืองพญาตองซู ประเทศเมียนมา จากนั้นวันที่ 16 กุมภาพันธ์ จะเดินทางไปปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจอะไร ส่วนจะไปพบและพูดคุยกับใครบ้างนั้นยังไม่ได้กำหนดรายละเอียด ทั้งนี้ การซีลชายแดนครอบคลุมอยู่แล้ว ซึ่งการประกาศตัดไฟและอินเทอร์เน็ตยังไม่ครอบคลุมไปที่จุดอื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงเวลานี้มีการลักลอบขนน้ำมันจากไทยไปขายในเมียนมา นายภูมิธรรม ระบุว่า ขณะนี้ทางกิจการชายแดน ทหารและตำรวจตระเวนชายแดนและพื้นที่ที่ซีลชายแดน 51 อำเภอได้ทำการตรวจ และคนที่มีส่วนร่วมจะถูกข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ด้วย
ส่วนมาตรการที่ห้ามนำแกลลอนมาเติมน้ำมันกลับที่จังหวัดเชียงราย จะดำเนินการมาตรการนี้กับพื้นที่อื่นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากประกาศต้องทำทุกที่ตามแนวชายแดน แต่ซีเรียสที่สุดเป็นพื้นที่ที่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขณะนี้ประกาศ 5 จุดหลักและสามารถขยายได้หากพบจุดใดเพิ่ม
เมื่อถามถึงกรณีที่กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธพญาตองซู ประกาศให้คนจีนออกจากพื้นที่เพราะทำให้คนเมียนมาเดือดร้อน จะส่งผลกระทบกับคนไทยในเมียนมาหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า ไม่เกี่ยวกับเรา เขามีปัญหากับคนจีนเป็นเรื่องของเขา เนื่องจากเป็นอธิปไตยของประเทศเขา
เตือนฝ่ายค้านอย่าพาดพิงคนนอก
ขณะเดียวกัน นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า อยู่ที่ประเด็น หากคิดว่ารัฐบาลมีจุดบกพร่องตรงไหนก็ดูตามประเด็น หากไม่มีประเด็นอะไร ใช้เวลาแค่วันเดียวคงพอ แต่หากมีประเด็นที่จะอภิปราย เราไม่มีปัญหาจะใช้เวลากี่วันก็ได้ ดูตามความจำเป็น
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าการอภิปรายครั้งนี้ดูเหมือนจะมุ่งประเด็นไปที่คนนอก คือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจคือให้อภิปรายรัฐบาล มีข้อวิจารณ์หรือข้อแนะนำอะไรให้กับรัฐบาล ไม่ใช่จะอภิปรายใครก็ทำได้ เพราะมีกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับสภากำหนดอยู่ ขอให้ฝ่ายค้านตรวจสอบทบทวนให้ดี ถ้าไปอภิปรายคนนอก ข้อบังคับสภาและกฎหมายไม่ได้คุ้มครอง
ปรับ ครม. แค่สื่อวิเคราะห์
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีออกมามากในช่วงเวลานี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มาจากสื่อ ฟังครั้งแรกก็มาจากที่สื่อเสนอ ส่วนคนมีอำนาจปรับจริงคือนายกรัฐมนตรี และตนยังไม่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นสื่อควรเริ่มต้นจากฐานข้อมูลที่เป็นจริง หากจะวิเคราะห์ก็วิเคราะห์ไป แต่ถ้ามาถามพวกเรา บอกได้ว่าเราไม่มีปัญหาอะไร
ข้อมูล / ภาพ : ไทยรัฐ