เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับชาวอิสราเอลที่บุกเข้ามาในพื้นที่จนถึงขั้นพูดถึงการห้ามคนไทยเข้า โดยนายอนุทินยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่ชาวอิสราเอลจะสามารถปักป้ายห้ามคนไทยเข้าพื้นที่ได้ พร้อมยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับผลพวงจากการให้สิทธิ์ฟรีวีซ่าแก่ชาวต่างชาติ

กระแสข่าวการยึดปายโดยชาวอิสราเอล

ในช่วงที่ผ่านมา มีกระแสข่าวที่สร้างความกังวลให้กับประชาชนเกี่ยวกับชาวอิสราเอลที่ไปตั้งฐานที่อำเภอปาย จนถึงขั้นมีการกล่าวถึงการปักป้ายห้ามคนไทยเข้าในพื้นที่บางแห่ง ซึ่งทำให้เกิดคำถามถึงการดำเนินการของรัฐบาลและการควบคุมพื้นที่ต่างชาติในประเทศไทย

นายอนุทินยืนยัน ไม่มีการห้ามคนไทยเข้า

นาย อนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวชี้แจงว่า ข้อความที่มีการกล่าวถึงการห้ามคนไทยเข้าอำเภอปายนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง และเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น ยกเว้นว่าเจ้าของพื้นที่นั้นจะเป็นเจ้าของที่ดินหรือที่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน แต่ในกรณีของร้านค้าหรือโรงแรมซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ ยืนยันว่าไม่สามารถปักป้ายห้ามคนไทยได้ หากเกิดการกระทำเช่นนั้น พวกเราก็จะเข้าไปแก้ไขสถานการณ์ทันที

นายอนุทินยังกล่าวว่า ข้อกังวลนี้อาจมาจากข่าวที่ถูกกล่าวถึงหลายทอด โดยยืนยันว่าไม่ต้องตกใจหรือกังวลเกินไป เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่แม่ฮ่องสอนไม่เป็นไปตามที่หลายคนเข้าใจ และผู้ว่าราชการจังหวัดได้รายงานว่าเหตุการณ์ไม่ได้เป็นไปตามที่ได้มีการเสนอข่าว

ปฏิเสธกระแสข่าวเกี่ยวกับผลพวงจากฟรีวีซ่า

เมื่อถูกถามว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิ์ฟรีวีซ่าหรือไม่ นายอนุทินได้ตอบว่า การให้สิทธิ์ฟรีวีซ่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ และการเข้าอยู่ของชาวต่างชาติในประเทศไทยมีระยะเวลาที่จำกัด หากต้องการทำงานหรือประกอบอาชีพในประเทศก็ต้องขออนุญาตจากทางการตามปกติ ทั้งนี้ นายอนุทินขอบคุณผู้ที่ให้ข้อมูลข่าวสารซึ่งทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง จนได้ข้อสรุปว่าเหตุการณ์ทั้งหมดไม่เป็นจริง

สถานการณ์ท่องเที่ยวในไทย ภายใต้การควบคุม

นายอนุทินยังกล่าวถึงการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทยว่า ทางรัฐบาลพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศอย่างสุภาพและเป็นมิตร แต่ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการแทรกแซงหรืออิทธิพลใดๆ ต่อความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศ โดยย้ำว่าการทำมาหากินในประเทศต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและความสุจริตเสมอ

ช่องทางติดตามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามข่าวสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผ่านช่องทางออนไลน์ของ กระทรวงมหาดไทย ได้ตลอดเวลา

ข้อมูล/ภาพ : พีพีทีวี