“ไอซ์-รักชนก” จัดชุดใหญ่ แฉต่อเป็นชุด ขุด 3 ประเด็น งบประกันสังคม

กลายเป็นประเด็นร้อนระหว่างพรรคประชาชน และสำนักงานประกันสังคม หลังน.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับใช้การงบประมาณหลาย ๆ เรื่อง ทั้งการบินไปดูงานต่างประเทศ การจัดทำปฏิทินของสำนักงานประกันสังคม

แม้ว่าทางนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน จะได้ออกมาชี้แจงแล้วก็ตามแต่ น.ส.รักชนก ยังได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเพิ่มเติม ในอีก 3 ประเด็น ดังนี้

– ประเด็นที่ 1: ทำไมสิทธิประกันสังคมที่บังคับจ่ายเงินทุกเดือน ถึงแย่กว่าสิทธิบัตรทอง หรือสิทธิสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่ได้ฟรี?

น.ส.รัชนก ระบุว่า เนื่องจากประกันสังคม ประกอบด้วย บอร์ดใหญ่ และบอร์ดเล็ก โดยบอร์ดใหญ่มาจาก 3 ฝ่าย และบางส่วนมาจากการเลือกตั้ง แต่บอร์ดเล็ก มาจากการแต่งตั้งจากอำนาจของรัฐมนตรีแรงงาน โดยบอร์ดเล็กมี 3 บอร์ด หนึ่งในนั้นคือ บอร์ดแพทย์ ปัญหาอยู่ตรงที่บอร์ดเล็กมีอำนาจมาก แต่ที่มาไม่ได้ยึดโยงกับผู้ประกันตน

ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้ประกันตนที่สงสัยว่า ‘ทำฟันได้ 900 บาท รับยาใกล้บ้านก็ไม่ได้ จ่ายแพง แต่คุณภาพแย่’ ใครเป็นคนคิด ใครเป็นคนทำ ก็คือบอร์ดแพทย์เป็นคนเคาะว่า ประกันสังคมจะให้สิทธิผู้ประกันตนรักษาอะไรได้เท่าไหร่บ้าง เป็นผู้กำหนดทิศทางเงิน 70,000 ล้านบาท/ปี ว่าจะถูกใช้ไปกับโรคไหน ใช้ได้กี่บาท

โดยผลงานที่ผ่านมา ก็คือ ความล้าหลังของสิทธิการรักษาของประกันสังคม แย่กว่าสิทธิบัตรทอง มีคนตั้งฉายาว่า เป็น ‘บอร์ดอีแอบ’ เพราะเมื่อก่อนไม่รู้ว่าใครนั่งบอร์ดนี้บ้าง ไม่มีการเปิดเผยชื่อว่าใครนั่งอยู่ในบอร์ดแพทย์บ้าง เพิ่งปรากฏครั้งแรกบนเว็บไซต์ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 68

อย่างไรก็ดี การแต่งตั้งบอร์ดแพทย์รอบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รมว.แรงงาน จะไม่กีดกันสัดส่วนจากผู้ประกันตน เพียงเพราะว่าสำนักงานประกันสังคมถูกแฉเรื่องการใช้งบประมาณที่ไม่โปร่งใส เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น ผู้ประกันตนคงจะโกรธไม่น้อย

– ประเด็นที่ 2: การทำ Web App เพื่อบริหารจัดการหลังบ้าน 850 ล้านบาท

ทั้งนี้ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า โครงการทำ Web App มีพิรุธ ดังนี้

บริษัท 2 แห่งที่มาประมูล เสนอราคาต่างกันเพียง 300,000 บาท คือที่ 848,888,000 และ 848,500,000 บาท ถามใครที่ไหนก็ว่าแปลก ว่าอาจเข้าข่ายฮั้วหรือไม่

ราคาของทั้ง 2 บริษัท เรียกได้ว่าชิดราคากลางแบบแทบไม่ต่างเลยด้วยซ้ำ จึงตั้งคำถามว่า หรือแท้จริงแล้วทั้ง 2 บริษัทรู้ราคากลาง

โครงการนี้ส่งงานช้า 193 วัน ต้องจ่าย 163 ล้าน แต่กลับไม่ถูกปรับสักบาท ค่าเมนเฟรมจ่ายทุกเดือนอีกอย่างน้อย 84 ล้าน ปัจจุบันเซ็นรับงาน แต่ตรวจรับไม่ได้ ใช้งานไม่ได้ สร้างความลำบากให้ข้าราชการตัวเล็กตัวน้อย

– ประเด็นที่ 3: ข้อมูลงบประมาณย้อนหลัง 5 ปี

คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ติดตามงบฯ เคยขอชวเลขที่พิจารณากลั่นกรองงบประมาณย้อนหลัง 5 ปี ประกันสังคมไม่มีใครรู้อะไรเลยว่า ที่ผ่านมาคุยอะไรกัน ใครพูดเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ใครพูดเพื่อผู้ประกันตน ซึ่งแจ้งว่าที่ไม่ให้เพราะว่ามีชื่อ ถ้ากังวลแค่นั้นปิดชื่อแล้วส่งมาเลยก็ยังได้

น.ส.รักชนก ระบุว่า เงินที่เราประหยัดได้ 1 ล้านบาท จากโครงการที่บอกว่า‘หยุมหยิม’ ถ้าเอาไปลงทุนผลตอบแทน 5% ต่อปี ผ่านไป 30 ปี จะกลายเป็น 4.32 ล้านบาท ลองคิดดูว่าถ้าประหยัดได้ 100 ล้าน 10,000 ล้านบาท จะเป็นเงินมหาศาลขนาดไหน

ข้อมูล / ภาพ : อินโฟเควสต์

ทรูดิจิทัล ฟ้องกรรมการ กสทช. ปม Must Carry – กระทบเสรีภาพการกำกับดูแล?

ไทย-จีน-เมียนมา เตรียมประชุมไตรภาคีแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ