นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหารมหาดไทย ลงพื้นที่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อหารือกับ นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย และ นายนาเฮมยา วิลเฮม ผู้นำศาสนายูดาห์ ผู้ดูแลโบสถ์ยิวในพื้นที่ กรณีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จนชาวบ้านร้องเรียน ขณะเดียวกันยังมีประเด็นข้อกังวลเกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานของชาวอิสราเอลในปาย ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของพื้นที่ การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจ ลดความขัดแย้ง และยืนยันว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย

กรณีปัญหานักท่องเที่ยวอิสราเอลและกระแสข่าวในโซเชียล
กรณีปัญหานักท่องเที่ยวอิสราเอลในอำเภอปายกลายเป็นกระแสร้อนแรงในโซเชียลมีเดีย มีการกล่าวอ้างว่ามีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลมากกว่า 30,000 คนย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐาน เปิดร้านค้าและโบสถ์ยิวโดยจำกัดการให้บริการเฉพาะชาวอิสราเอลเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม สร้างความรำคาญให้กับคนในพื้นที่ รวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องการแย่งอาชีพสงวนของคนไทย ส่งผลให้เกิดกระแสต่อต้านจากผู้ประกอบการในอำเภอปายถึงขั้นติดป้าย “ไม่ต้อนรับชาวยิว” บางส่วน
มท.1 ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ภายใต้คำสั่งของ นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน และคณะได้เดินทางลงพื้นที่ โบสถ์ชาบัด ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนายิว เพื่อหารือกับเอกอัครราชทูตอิสราเอลและผู้นำศาสนา ในระหว่างการเยี่ยมชม นายอนุทินได้ซักถามถึงข่าวลือเกี่ยวกับการขุดอุโมงค์ใต้ดินในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีเพียงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในพิธีกรรมเท่านั้น และไม่มีอุโมงค์ใต้ดินตามที่เป็นข่าว หลังจากนั้น คณะของ มท.1 ได้เดินทางไปประชุมที่โรงแรมมอนทิส อำเภอปาย เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน
ยืนยันไม่มี “ขาใหญ่ มาเฟีย” ต่างชาติ คุกคามประชาชน
นายอนุทินยืนยันว่า ทางการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและไม่พบการใช้อิทธิพลหรือมาเฟียต่างชาติในพื้นที่ปายแต่อย่างใด พร้อมเน้นย้ำว่านักท่องเที่ยวทุกคนต้องเคารพกฎหมายไทยและไม่สร้างปัญหาให้กับคนในพื้นที่ ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตอิสราเอลได้ให้คำมั่นว่าจะช่วยสร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวอิสราเอลเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยและข้อปฏิบัติที่เหมาะสม เพื่อป้องกันความขัดแย้ง
สั่งการดูแลความสงบ ห้ามละเมิดกฎหมายไทย
นายอนุทินได้สั่งการให้ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปาย ดูแลความสงบเรียบร้อยของพื้นที่ และกำชับว่าหากพบพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายให้ดำเนินการตามอำนาจที่มีอยู่ พร้อมเดินสำรวจพื้นที่ถนนคนเดินอำเภอปายและพูดคุยกับผู้ประกอบการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย
ข้อมูล / ภาพ : ไทยรัฐ