รัฐบาลชี้ต้องรอบรรจุระเบียบวาระก่อนพิจารณาเวลาอภิปราย
วิสุทธิ์ ฝ่ายรัฐบาลยืนยันว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ควรจัดขึ้นเพียง 1 วัน เนื่องจากยังไม่มีการบรรจุระเบียบวาระในขณะนี้ พร้อมตำหนิฝ่ายค้านที่ออกมาเรียกร้องให้ใช้เวลา 5 วัน ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่เป็นไปตามหลักการของสภา
การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นประเด็นร้อนแรงที่กำลังถูกจับตามอง โดยเฉพาะในประเด็นระยะเวลาที่เหมาะสม ฝ่ายค้านต้องการเวลา 5 วัน ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลมองว่าควรรอให้มีการบรรจุระเบียบวาระก่อน และระบุว่าการกำหนดเวลาต้องพิจารณาตามความเหมาะสมของเนื้อหาที่จะอภิปราย
ฝ่ายค้านเรียกร้อง 5 วัน – รัฐบาลโต้กลับ “เหตุใดต้องรีบตัดสินใจ?”
ประเด็นที่ก่อให้เกิดข้อถกเถียงคือ การที่ฝ่ายค้านประกาศล่วงหน้าว่าต้องการเวลา 5 วัน โดยไม่ได้หารือกับฝ่ายรัฐบาลก่อน ซึ่ง วิสุทธิ์ มองว่าเป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้อง โดยระบุว่า “ยังไม่มีการบรรจุระเบียบวาระ แต่ฝ่ายค้านกลับออกมาประกาศเรียกร้องเวลาล่วงหน้าแบบนี้ มันไม่ใช่แนวปฏิบัติที่เหมาะสมในสภา”
ทั้งนี้ วิสุทธิ์ยังอ้างอิงถึง สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เคยใช้เวลาอภิปราย 3 วัน สำหรับผู้อภิปราย 10 คน พร้อมตั้งคำถามว่า หากครั้งนี้มีเพียง 1 คน ที่อภิปราย จะต้องใช้เวลาถึง 5 วัน จริงหรือไม่
ฝ่ายรัฐบาลเปิดช่อง – อาจเพิ่มเวลา หากอภิปรายครอบคลุมรัฐมนตรีอื่น
แม้ว่าฝ่ายรัฐบาลจะยืนกรานในเบื้องต้นว่าการอภิปราย 1 วัน เพียงพอ แต่ วิสุทธิ์ ก็เปิดเผยว่าหาก เนื้อหาอภิปรายขยายไปถึงรัฐมนตรีคนอื่น อาจมีการพิจารณาเพิ่มเวลา “ถ้าฝ่ายค้านอภิปรายแค่นายกฯ คนเดียว เราก็ให้แค่วันเดียว แต่ถ้าครอบคลุมถึงรัฐมนตรีคนอื่น เราก็พร้อมพิจารณาเพิ่มวันให้เหมาะสม”
อย่างไรก็ตาม เขาเน้นย้ำว่าฝ่ายค้านควรใช้แนวทางเจรจาอย่างเหมาะสม ไม่ใช่การตั้งเงื่อนไขล่วงหน้าว่าหากไม่ได้ 5 วัน จะกล่าวหาฝ่ายรัฐบาลว่า “ใจแคบ” หรือ “หลีกเลี่ยงการอภิปราย”
รัฐบาลยัน “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” ควรตรงประเด็น ไม่ใช่แค่ใช้เวลายืดเยื้อ
วิสุทธิ์ ย้ำว่า จุดประสงค์ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือ การตรวจสอบรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่การใช้เวลาอภิปรายอย่างไม่จำเป็น “แต่ละคนควรอภิปรายตรงประเด็น ใช้เวลาให้คุ้มค่า ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง การอภิปรายที่ชัดเจนกระชับ 5-10 นาที ก็เพียงพอในการสื่อสารข้อมูลสำคัญ”
นอกจากนี้ เขาระบุว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ใช่เวทีแข่งขันแพ้ชนะ แต่เป็นโอกาสให้ประชาชนเห็นถึงการทำงานของทั้งสองฝ่าย “ประชาชนจะตัดสินเองว่านายกฯ ตอบคำถามได้ชัดเจนหรือไม่ เราไม่จำเป็นต้องดึงเวลาให้ยืดเยื้อโดยไม่จำเป็น”
องครักษ์พิทักษ์นายกฯ – เปิดทางรัฐมนตรีช่วยตอบประเด็นที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับคำถามว่า รัฐบาลจะมีองครักษ์พิทักษ์นายกฯ หรือไม่? วิสุทธิ์ ชี้แจงว่านายกฯ สามารถให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องช่วยตอบในประเด็นที่เกี่ยวข้องตามข้อบังคับของสภา “นายกฯ สามารถให้รัฐมนตรีช่วยตอบได้ เพราะบางประเด็นเกี่ยวข้องกับกระทรวงต่างๆ นี่เป็นแนวปฏิบัติปกติ ไม่ใช่เรื่องผิด”
ทั้งนี้ เขายังเน้นว่า ฝ่ายรัฐบาลจะไม่ใช้การประท้วงอย่างไม่จำเป็น และหากฝ่ายค้านอภิปรายอยู่ในกรอบข้อบังคับก็จะปล่อยให้อภิปรายไป “เราจะไม่ขัดขวาง ถ้าฝ่ายค้านกล่าวหาอย่างมีเหตุผล รัฐมนตรีก็พร้อมชี้แจง แต่หากอภิปรายเกินเลย หรือกล่าวถึงบุคคลภายนอกโดยไม่มีเหตุผลที่จำเป็น ก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย”
