วิปรัฐบาลยืนยัน ฝ่ายค้านต้องแก้ไขญัตติก่อนบรรจุวาระ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวัน อภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ เนื่องจากฝ่ายค้านยังต้องแก้ไขญัตติตามที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้วินิจฉัยไว้ หากไม่แก้ไข ญัตติจะไม่สามารถถูกบรรจุในระเบียบวาระได้ ทำให้การอภิปรายไม่สามารถเกิดขึ้น
นายวิสุทธิ์ระบุว่า ฝ่ายค้านต้องดำเนินการแก้ไขในส่วนที่ประธานสภาฯ วินิจฉัยไว้ก่อน และหากดำเนินการเรียบร้อย ฝ่ายรัฐบาลก็พร้อมที่จะประชุมร่วมกันต่อไป อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องระหว่างฝ่ายค้านและประธานสภาฯ ซึ่งฝ่ายค้านต้องแก้ไขกันเอง วิปรัฐบาลไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือขัดขวางกระบวนการแต่อย่างใด
ฝ่ายค้านต้องปฏิบัติตามกฎ ไม่ควรสร้างบรรทัดฐานใหม่
นายวิสุทธิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ของสภา เนื่องจากฝ่ายค้านต้องการอภิปรายบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจเป็นการสร้างวัฒนธรรมที่ผิดพลาด และควรหลีกเลี่ยง
เขาได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีตเมื่อปี 2545 ที่ นายชวน หลีกภัย เคยเป็นผู้นำฝ่ายค้าน และถูก นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาฯ ในขณะนั้น ขอให้แก้ไขญัตติ ซึ่งแม้จะไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบของสภา ดังนั้นฝ่ายค้านควรพิจารณาตัวอย่างจากอดีตเพื่อให้การอภิปรายสามารถเดินหน้าได้ตามกระบวนการ
เปรียบเทียบญัตติอภิปรายกับญัตติตั้งกรรมาธิการ
เมื่อมีการเปรียบเทียบกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยเอกสารว่าครั้งหนึ่ง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เคยยื่นญัตติอภิปรายบุคคลภายนอกเมื่อปี 2562 นายวิสุทธิ์ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเป็นเพียงญัตติขอตั้งกรรมาธิการ ไม่ใช่ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นคนละกรณีกัน ดังนั้น ไม่ควรนำมาใช้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
เขายังกล่าวว่าที่ผ่านมาสภามีคณะนักกฎหมายจำนวนมาก และเชื่อว่าการพิจารณาของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ นั้นดำเนินไปอย่างถูกต้องตามหลักกฎหมายแล้ว หากฝ่ายค้านไม่แก้ไขญัตติ ก็คงไม่สามารถเดินหน้าสู่การอภิปรายได้
ปัดข้อกล่าวหาว่าเป็นการเตะถ่วงกระบวนการ
สำหรับข้อครหาที่ว่า ฝ่ายรัฐบาลจงใจเตะถ่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวิสุทธิ์ยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของประธานสภาฯ ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล พร้อมเตือนฝ่ายค้านว่า หากออกตัวแรงเกินไป อาจจะไม่มีทางลงให้ได้เมื่อถึงเวลาจริง
เขาเปรียบเทียบกรณีญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เคยเกิดขึ้น โดยระบุว่าฝ่ายค้านต้องเข้าใจว่าบางกระบวนการทางรัฐสภามีข้อจำกัด และต้องดำเนินการตามกฎเกณฑ์ ไม่สามารถเดินหน้าได้โดยไม่คำนึงถึงระเบียบที่มีอยู่
อภิปรายไม่ไว้วางใจอาจทันในสมัยประชุมนี้หรือไม่
เมื่อถูกถามว่า หากฝ่ายค้านไม่สามารถหาข้อสรุปกับประธานสภาฯ ได้ภายในสัปดาห์นี้ จะสามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทันในสมัยประชุมปัจจุบันหรือไม่ นายวิสุทธิ์ระบุว่า “อาจจะหวุดหวิด” แต่สุดท้ายแล้วเป็นเรื่องของฝ่ายค้านที่ต้องจัดการ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลแต่อย่างใด
เขายังกล่าวว่า ตามกฎของสภา หลังจากที่ประธานสภาฯ บรรจุวาระการอภิปรายแล้ว จึงจะสามารถกำหนดวันอภิปรายได้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการบรรจุวาระดังกล่าว ขณะที่ฝ่ายค้านได้ออกมาประกาศล่วงหน้าว่าต้องการอภิปรายเป็นเวลา 5 วัน ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับระเบียบของสภา
ยืนยันการวินิจฉัยของประธานสภาฯ เป็นไปตามกฎหมาย
ในกรณีที่ฝ่ายค้านอาจพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายต่อประธานสภาฯ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า หากต้องการดำเนินคดีก็สามารถทำได้ตามกระบวนการทางกฎหมาย แต่เขาเชื่อว่า ก่อนที่ประธานสภาฯ จะตัดสินใจเรื่องดังกล่าว ได้มีการหารือกับฝ่ายกฎหมายของสภาเรียบร้อยแล้ว จึงไม่น่าจะมีปัญหาหรือเป็นการดำเนินการโดยพลการ
ปฏิเสธการปกป้องนายทักษิณ
สุดท้าย นายวิสุทธิ์ตอบโต้ข้อกล่าวหาว่า การชะลอการอภิปรายมีเจตนาปกป้อง นายทักษิณ ชินวัตร โดยยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ปกป้องใครเป็นพิเศษ แต่ต้องการให้กระบวนการเป็นไปตามระเบียบของรัฐสภา
“หากฝ่ายค้านปฏิบัติตามระเบียบ ญัตติถูกบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ เราก็พร้อมที่จะอภิปราย แต่ถ้ายังไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง ก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้” นายวิสุทธิ์กล่าว พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลได้เตรียมข้อมูลสำหรับการอภิปรายเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้มีความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าว

ข้อมูล/ภาพ : The Better