กลางห้องประชุมสภากรุงเทพฯ เกิดการอภิปรายเข้มข้น เมื่อ พีรพล สมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติ ตั้งคำถามเชิงรุกต่อการบริหารวัคซีนของกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะวัคซีนที่ใกล้หมดอายุและการเข้าถึงของกลุ่มเสี่ยง ขณะที่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลุกขึ้นตอบโต้ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล สื่อสารความหวังและแสดงความใส่ใจต่อประชาชนอย่างชัดเจน

พีรพลตั้งคำถามตรงจุด จี้ความชัดเจนวัคซีนมีจริงหรือไม่

พีรพล เปิดประเด็นด้วยคำถามสำคัญเรื่องจำนวนวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยอ้างข้อมูลจากการประชุมสำนักงานเขตที่ ศูนย์สาธารณสุข 11 แจ้งว่าไม่มีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในมือ และไม่มีแนวโน้มจะได้รับเพิ่มในเร็ววัน

เขาตั้งคำถามกลางสภาว่า “ตกลงตัววัคซีนเนี่ย มีอยู่จริงหรือเปล่า” พร้อมตำหนิการทำงานเชิงรับของฝ่ายบริหาร โดยเปรียบเปรยว่า หากไม่มีการทวงถาม ผู้มีอำนาจก็อาจไม่ได้ลงพื้นที่ไปฉีดวัคซีนให้ประชาชน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า “ถ้าผมไม่ทวงถามเนี่ย แล้วท่านจะออกเดินสำรวจไปฉีดไหม”

ห่วงวัคซีนใกล้หมดอายุ จี้เร่งฉีดก่อนสูญเปล่า

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ พีรพล หยิบยกคือวัคซีนกว่า 10,000 โดส ที่มีแนวโน้มจะหมดอายุในเดือนกรกฎาคม โดยเขาตั้งข้อสงสัยว่าแท้จริงแล้วอาจหมดอายุเร็วกว่านั้น คือในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน

เขาเรียกร้องให้ กรุงเทพมหานคร เปิดเผยแผนการฉีดวัคซีนอย่างชัดเจน พร้อมตรวจสอบกับ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ว่าประชาชนในกลุ่มเปราะบาง 7 กลุ่มเสี่ยง ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้วหรือไม่ โดยย้ำว่า “ท่านเป็นห่วงประชาชนหน่อยนะครับ”

นอกจากนี้ พีรพล ยังกล่าวถึงวัคซีนล็อตใหม่อีกกว่า 200,000 โดส ที่จะได้รับในเร็ว ๆ นี้ โดยเรียกร้องให้เร่งฉีดให้ครบตามแผนโดยเร็ว เพื่อป้องกันโรคที่มีแนวโน้มกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว พร้อมเปรียบเทียบสถานการณ์กับ “โรงพยาบาลทหารศึกโมเดล” ที่ไม่มีของไว้ใช้ จนต้องดูแลประชาชนไม่ทั่วถึง

ชัชชาติแจงอย่างนุ่มนวล ย้ำความหวังและความใส่ใจ

ท่ามกลางการอภิปรายที่เคร่งเครียด ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลุกขึ้นชี้แจงด้วยน้ำเสียงสงบและสุภาพ โดยกล่าวว่า “ก็ยังมีความหวังว่ามีผู้รอดชีวิตนะฮะ… อย่าใช้คำพูดว่าผู้เสียชีวิตหมดแล้วนะครับ เพราะมีญาติผู้เสียหายที่มีความหวังอยู่ครับ”

คำกล่าวของ ชัชชาติ ไม่เพียงเป็นการตอบโต้เชิงสร้างสรรค์ต่อถ้อยคำรุนแรง แต่ยังสะท้อนถึงมุมมองด้านมนุษยธรรม และความใส่ใจต่อผลกระทบทางจิตใจของครอบครัวผู้สูญเสีย โดยเขายืนยันว่า กรุงเทพมหานคร ยังให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ พร้อมแสดงจุดยืนชัดเจนว่าการบริหารวัคซีนต้องไม่ละเลยความรู้สึกของประชาชน

สังคมจับตาแนวทาง กทม. จัดการวัคซีน

การอภิปรายครั้งนี้สะท้อนความตึงเครียดของสถานการณ์วัคซีนในกรุงเทพฯ และความคาดหวังของประชาชนที่ต้องการเห็นการบริหารจัดการวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเท่าเทียม โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง

ทั้งนี้ สังคมยังคงจับตามองแนวทางของผู้ว่าฯ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์วัคซีนใกล้หมดอายุได้ทันท่วงทีหรือไม่ และจะป้องกันไม่ให้วัคซีนถูกทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ได้อย่างไร

ข้อมูล/ภาพ : ข่าวเวิร์คพอยท์