“ครั้งหน้าไม่รู้จะมีอีกสมัยประชุมหรือเปล่า… หรือสมัยนี้สุดท้ายแล้วหรือยังก็ไม่รู้ ขอให้ยังไม่สุดท้ายก็แล้วกัน”
เสียงลอยๆ จากปากรองประธานสภาผู้แทนราษฎร วัยหนุ่มจากพรรคการเมืองใหญ่ในรัฐบาล อาจดูเหมือนแค่การหยอกเล่นท้ายวันประชุมสภา แต่กับแวดวงการเมืองที่มีหูทิพย์และหัวใจไวยิ่งกว่านักเลงหุ้น คำพูดนี้ไม่ต่างจากระเบิดเสียงเบา ที่ก้องอยู่ในห้องข่าวและวงกาแฟเช้า
คำถามไม่ได้อยู่ที่ว่า “พูดจริงหรือพูดเล่น” แต่อยู่ที่ว่า “ใครจะฟังแล้วเชื่ออะไร” มากกว่า
ทันทีที่คำพูดหลุดออกมา กระแสข่าวการ “ยุบสภา” ก็พลุ่งพล่านขึ้นอีกครั้ง ไม่ใช่ครั้งแรกในปีนี้ และก็อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้าย หากยังมีสัญญาณลักษณะนี้ลอยมาตามลมของเกมอำนาจ
แม้จะมีเสียงจากระดับรองนายกรัฐมนตรีออกมายืนยันหนักแน่นว่า “ยังมีประชุมสมัยหน้าแน่นอน ไม่มีการยุบสภา” และตัวผู้พูดเองก็ออกมาอธิบายว่า “ไม่ได้หมายความอย่างนั้น” แต่ในสนามการเมืองไทย คำพูดลอยๆ มักไม่เคยลอยไปเปล่าๆ
และในโลกของผู้มีอำนาจ ไม่มีอะไร “บังเอิญ”
การจะยุบสภาไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ ไม่ใช่เรื่องของอุบัติเหตุทางคำพูด แต่มักเป็นเรื่องของการคำนวณต้นทุนทางการเมืองล้วนๆ ยุบแล้วได้เปรียบ? ยุบแล้วรีเซ็ตเกมใหม่? หรือยุบแล้วเบี่ยงความสนใจจากอะไรบางอย่าง? นั่นคือคำถามที่ควรถามมากกว่า
การเลือกจะพูดหรือไม่พูดให้คนเข้าใจคลุมเครือ จึงไม่ใช่ความเผลอ แต่คือการเปิดเกม เพื่อดูว่าหมากจะเดินไปทางไหน
น่าสังเกตว่า ท่าทีจากพรรคร่วมรัฐบาลช่วงหลังไม่ได้ราบรื่นเหมือนภาพลักษณ์ที่แสดงออก หนึ่งพูดอ้อม สองปฏิเสธแรง สามเงียบใส่กันก็มีครบ เหมือนวงดนตรีที่เคยเล่นประสาน แต่ตอนนี้เหมือนต่างคนต่างถือโน้ตคนละฉบับ
ไม่มีใครอยากพูดคำว่า “ยุบ” เพราะรู้ว่าคำนี้เปลี่ยนดุลได้ทันที ยุบเมื่อไร ใครจะเสีย ใครจะได้ ใครเตรียมพร้อม ใครยังหลับอยู่… คำตอบเหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องของพรรคใหญ่ พรรคกลาง หรือพรรคเล็ก แต่คือเรื่องของ “เครือข่าย” ทั้งในและนอกสภา
จึงไม่น่าแปลกใจที่คำพูดเพียงประโยคเดียวจะสามารถจุดประกายบทสนทนาได้ทั้งวงการ บางคนเรียกว่าหมากวัดใจ บางคนมองว่าแค่ “ตลกท้ายสมัย” แต่บางคนที่เก๋าพอจะรู้ว่า ตลกแบบนี้ในสภาไม่เคยขำจริง
เพราะการเมืองไทยนั้น… ไม่มีอะไรเบา แม้แต่คำพูดเบาๆ ก็หนักอึ้งหากพูดในจังหวะที่ใช่
จะยุบหรือไม่ยุบไม่สำคัญเท่ากับว่า “ใครรู้ก่อน” และ “ใครเตรียมตัวทัน” เพราะในโลกการเมือง ไม่มีใครบอกหมดไพ่ แต่ทุกคนแอบส่องไพ่ของคนอื่นอยู่ตลอด
และเมื่อการประชุมสภาฯ สมัยหน้าเดินทางมาถึง เราอาจจะได้รู้ว่า คำพูดวันนั้นคือ “มุกขำขำ” หรือคือ “คำทิ้งท้าย” ก่อนตัดฉากเข้าสู่ฤดูเลือกตั้งใหม่

ข้อมูล : มติชน