ที่บ้านพระอาทิตย์ บ่ายวันนั้นเงียบเกินปกติ
แต่อาจารย์ปานเทพไม่ได้เงียบตามบรรยากาศ
เขามาพร้อม “หลักฐาน” และ “พยาน”
ที่จะเปลี่ยนเรื่องตึกถล่ม…ให้กลายเป็นคดีที่สะเทือนทั้งระบบราชการ
“ตึกไม่ถล่ม… ก็ไม่มีใครรู้ว่าใน สตง. มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง”
เสียงจากอดีตข้าราชการ สตง. คนหนึ่งที่ตัดสินใจยืนขึ้น
เขาชื่อ นายนรัตนันวิ วิภากรวิทย์
ทำงานใน สตง. มายาวนานถึง 18 ปี
เขาไม่พูดลอย ๆ แต่พูดพร้อมพยานหลักฐาน—
คลิปเสียง, คลิปวิดีโอ, รายงานการประชุม
ที่บันทึกไว้ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบัน
โครงสร้างไม่สมมาตร… โครงสร้างอำนาจก็เช่นกัน
เรื่องเริ่มจากการ “เปลี่ยนที่ดิน”
จากแผนเดิมที่ปทุมธานี ไปเช่าที่ของการรถไฟ
ทำให้ค่าออกแบบเดิมที่รัฐจ่ายไป…หายวับเหมือนไม่เคยมีอยู่จริง
แล้วมันก็ลากไปสู่การออกแบบใหม่
ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมยืนยันว่า “ไม่สมมาตร” ตั้งแต่ต้น
แต่สิ่งที่สะเทือนใจกว่าคือ ผู้ที่เซ็นรับผิดชอบแบบ
คือวุฒิวิศวกรวัย 85 ปี ที่ไม่ได้ออกแบบเองมานานแล้ว
แล้วใครกันแน่…ที่ควรรับผิดชอบ?
“โยนแพะ” ง่ายกว่า “ยอมรับว่าโครงสร้างมันเน่า”
ช่วงนี้มีข่าวแค่ “นอมินี” ของบริษัท China Railway No.10
ถูกออกหมายจับในข้อหาเดียว
แต่ “แค่ข้อหาเดียว” จะอธิบายความซับซ้อนของเรื่องนี้ได้อย่างไร?
เพราะสิ่งที่พยานนำเสนอ ไม่ใช่แค่ความผิดพลาดของคนใดคนหนึ่ง
แต่คือ ความพังของระบบตรวจสอบภายใน
ตั้งแต่การเลือกผู้รับเหมาจนถึงการควบคุมงาน
ตั้งแต่การออกแบบที่เปลี่ยนบ่อย ไปจนถึงการอนุมัติที่มีลายเซ็นปลอม
และที่น่าตกใจกว่านั้น คือ คนบางคนใน คตง.
ซึ่งยังมีอำนาจอยู่…อยู่ในนั้นด้วย
เสียงที่ดังขึ้น… จากคนที่เคยเงียบ
“ผมกลัวครับ” พยานยอมรับตรง ๆ
“แต่ถ้าไม่พูดวันนี้… ก็อาจไม่มีวันได้พูดอีกเลย”
อดีตข้าราชการผู้นี้ไม่ใช่แค่คนเดียว
แต่มีข้าราชการทั้งอดีตและปัจจุบันทยอยส่งข้อมูล
เพราะพวกเขารู้ว่า สตง. ไม่ได้มีแต่คนที่มีส่วนรู้เห็น
แต่ยังมีคนดี ที่อยากรักษาเกียรติขององค์กรไว้
“อย่าให้ความจริงถูกซุกไว้ใต้พรหม เพียงเพราะใครบางคนมีอำนาจมากกว่า”
นี่คือเสียงเล็ก ๆ ที่กำลังกลายเป็นพลังใหญ่
ที่จะปลุกให้ทั้งระบบกลับมาตั้งคำถาม
ว่าทำไมตึกถึงถล่ม? และใครต้องรับผิดชอบ?
ข้อมูล/ภาพ : amarintv
