ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 10,028 ล้านบาท จากกรณีความเสียหายของโครงการรับจำนำข้าว
ประชานิยมกับความจริงหลังม่าน
โครงการรับจำนำข้าวในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความมุ่งร้าย ตรงกันข้าม…มันเริ่มจากเจตนาดีต่อชาวนา แต่เจตนาดีที่ขาดความเข้มแข็งของระบบบริหารและการตรวจสอบ กลับกลายเป็นช่องทางให้เกิดการรั่วไหล และเสียหายอย่างมหาศาล
นโยบายนี้จึงไม่เพียงแต่สร้างภาระให้รัฐในระยะสั้น หากยังเผยให้เห็นว่า ผู้นำทางการเมืองที่ใช้อำนาจบริหาร ต้องแบกรับความรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อผลลัพธ์ของนโยบายกลายเป็นหายนะของระบบเศรษฐกิจและสังคม
10,028 ล้านบาท… ไม่ใช่แค่ตัวเลข
คดีนี้เริ่มจากคำสั่งของกระทรวงการคลังที่เคยประเมินความเสียหายไว้ถึง 35,717 ล้านบาท แต่ท้ายที่สุด ศาลปกครองสูงสุดชี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดในส่วน 10,028 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่แม้ลดลง แต่ก็มีนัยทางการเมืองและกฎหมายอย่างชัดเจน
นี่คือการส่งสัญญาณว่า ระบบยุติธรรมของไทยยังสามารถไล่ตามความรับผิดชอบของผู้นำทางการเมืองได้ แม้บุคคลนั้นจะมีสถานะสูงเพียงใดก็ตาม
นี่คือจุดจบ หรือจุดเริ่มต้น?
บางฝ่ายอาจมองว่าคำพิพากษานี้เป็นการซ้ำเติมอดีตนายกฯ ที่ต้องลี้ภัยและไม่สามารถกลับประเทศไทยได้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง มันคือการยืนยันว่า นโยบายสาธารณะที่ส่งผลกระทบวงกว้าง ย่อมต้องมีผู้รับผิดชอบในท้ายที่สุด
“แล้วใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากโครงการจำนำข้าว…?”
คำถามนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น—ชัดเจนเกินจะปฏิเสธได้
