เมื่อ “เงินหมื่น” ถูกพัก รัฐเร่งเบนเข็ม “จัดการน้ำ-โครงสร้างพื้นฐาน” ชนวิกฤตเศรษฐกิจ

ในวันที่สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังไม่ไว้ใจได้ รัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” ในบทบาทนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย จึงจำต้องตัดสินใจ “เลื่อนแจกเงินหมื่น” หรือโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด

นี่ไม่ใช่แค่การ “ถอยเชิงเทคนิค” หากแต่เป็น “การหันคันเร่ง” ของรัฐไทยต่อกระแสเศรษฐกิจโลกที่กำลังกระโชกใส่ภูมิภาคนี้ ตั้งแต่ ภาษีกำแพงนำเข้าจากสหรัฐฯ ที่เริ่มส่งสัญญาณกดดันการส่งออกไทย ไปจนถึงแรงเสียดทานในตลาดเงินที่ทำให้เงินบาทผันผวนไม่หยุด

เบื้องหลัง “พักเงินหมื่น”

หากย้อนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว โครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ถือเป็น “ไพ่ลับ” ที่รัฐบาลชุดนี้ตั้งใจจะงัดมา “กระตุกเศรษฐกิจ” ให้ขยับตัว หลังภาพรวมจีดีพีไทยยังโตต่ำกว่าเป้า

แต่จากข้อเสนอของหลายหน่วยงาน ทั้ง สภาพัฒน์ และ ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สะท้อนข้อกังวลว่า หากอัดฉีดเงินจำนวนมากในเวลาที่ต้นทุนการนำเข้าสูง เงินเฟ้อยังไม่นิ่ง อาจกลายเป็น “ยาแรงผิดเวลา” จนเศรษฐกิจไทยซวนเซได้

สุดท้าย นายกรัฐมนตรี จึงประกาศผ่านรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ว่า โครงการนี้ต้องเลื่อน แต่ไม่ได้แปลว่าจะ “พับเก็บเข้าลิ้นชัก”

“ต้องทำให้เหมาะสมกับจังหวะและสถานการณ์…”
(คำกล่าวของนายกรัฐมนตรีในรายการ)

เงิน 1.57 แสนล้าน… จะไปไหน?

งบประมาณมหาศาลกว่า 157,000 ล้านบาท ซึ่งถูกจัดเตรียมไว้สำหรับโครงการวอลเล็ตนี้ จะไม่ปล่อยให้แขวนลอย รัฐบาลประกาศ “เปลี่ยนสนามรบ” ทันที โดยวางเป้าหมายไว้ 3 แนวรบหลัก:

1) จัดการน้ำอย่างเป็นระบบ

ประเทศไทยกำลังเผชิญ ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง ที่รุนแรงขึ้นทุกปี
งบก้อนแรกจะถูกโยนเข้า โครงการบริหารจัดการน้ำ ทั้งการเสริมเขื่อน การเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำ และการสร้างระบบกระจายน้ำลงสู่พื้นที่เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม

ถือเป็น “ยุทธศาสตร์น้ำ” ที่หวังลดความเสี่ยงต่อ ห่วงโซ่การผลิต และ ความมั่นคงทางอาหาร ของประเทศ

2) เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน

โครงสร้างพื้นฐานด้าน คมนาคมและโลจิสติกส์ คือหัวใจของ Soft Power ที่จะดันไทยให้ยืนหยัดในเวทีแข่งขันระดับภูมิภาค
งบก้อนต่อไปจึงถูกจัดไปพัฒนาเส้นทางคมนาคม ถนน ราง น้ำ อากาศ เพื่อ “เปิดเส้นเลือด” ให้เศรษฐกิจไทยไหลเวียนคล่องตัวขึ้น

3) ปลุกการท่องเที่ยว

“เครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวเดียวที่ยังวิ่งได้เร็ว” อย่างการท่องเที่ยว ย่อมไม่ถูกมองข้าม
รัฐบาลเตรียมจัดงบพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ปรับปรุง ความปลอดภัย ด้วยการติดตั้ง กล้อง CCTV และเพิ่ม สิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมา

นี่คือการตอบโจทย์ “ศก.เสี่ยง” ด้วยแนวทาง “ใช้เงินอย่างชาญฉลาด” แทนการทุ่มแจกเงินเพียงอย่างเดียว

เบื้องลึก… มากกว่าการเลื่อน

หลายฝ่ายวิเคราะห์ตรงกันว่า การตัดสินใจครั้งนี้ ยังสะท้อนถึงการที่รัฐบาลชุดนี้เริ่ม “วางแผนระยะกลาง-ยาว” มากขึ้น
ไม่ใช่แค่ “การบริโภคเฉียบพลัน” จากการแจกเงินเพียงชั่วคราว

เพราะโลกวันนี้… เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญทั้ง

  • ความไม่แน่นอนจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
  • สงครามค่าเงิน
  • ราคาพลังงานที่ผันผวน
  • แนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว

ทั้งหมดล้วนเป็นแรงกดดันที่ทำให้การเดินเกมของรัฐบาลต้อง “รอบคอบขึ้น”

สัญญาณต่อไป?

นายกรัฐมนตรีระบุชัดในรายการว่า โครงการวอลเล็ตไม่ได้ถูก “ล้ม” หากแต่ต้อง “รอจังหวะ”

หากเศรษฐกิจเข้าสู่สภาวะที่เหมาะสม การ “อัดฉีด” ครั้งใหญ่ด้วยเงินหมื่น ก็ยังสามารถถูกงัดออกมาใช้ “เข็นเศรษฐกิจรอบใหม่” ได้เสมอ

แต่วันนี้… รัฐบาลเลือก “เบนเข็ม” มาจัดการปัจจัยพื้นฐานเสียก่อน

เดินเกมใหม่บนกระดานเดิม

ในโลกที่ไม่มีอะไรแน่นอน… การ “ยืดเวลา” วอลเล็ต 10,000 บาท จึงไม่ใช่การยอมแพ้

หากแต่เป็นการเลือก “วางหมากใหม่” อย่างมีชั้นเชิง
และนี่คือบทใหม่ของ รัฐบาลแพทองธาร ที่กำลังจับตาดูทุกตัวแปรบนกระดานเศรษฐกิจโลกอย่างระมัดระวัง

ดิจิทัลวอลเล็ต, แพทองธาร, งบประมาณแผ่นดิน, โครงสร้างพื้นฐาน, เศรษฐกิจไทย

“แรมโบ้” ขยับไพ่ เขย่าบัลลังก์ รทสช. สะเทือนเก้าอี้ “พีระพันธุ์” พรรคเริ่มร้าว ส.ส.โอดเข้าถึงยาก แตกแยกพุ่ง

บาปเก่าที่ยังไม่สิ้น คดี “คุณหญิงจารุวรรณ” ปมทุจริตว่าจ้างออกแบบ “ตึกใหม่ สตง.”