ในค่ำคืนที่เมืองหลวงยังคงร้อนระอุ ไม่ใช่เพราะแดด แต่เพราะไฟในใจคนการเมืองลุกพรึ่บขึ้นมาอีกครั้ง มีภาพหนึ่งที่สะเทือนยิ่งกว่าพาดหัวสื่อไหนๆ
เนวิน ชิดชอบ ปรากฏตัวไม่ใช่ในสนามบอล แต่ในสนามการเมือง มื้อนี้ร่วมโต๊ะกับ สันติ พร้อมพัฒน์ และ นายกฯ ด๊อยซ์ ณ โรงแรมใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมกับเงาสะท้อนของคำว่า “ดีลมะขามหวาน” ที่ไม่ต้องมีใครบรรยายมากกว่านี้ ทุกคนก็ได้กลิ่น
การเมืองไทยไม่ใช่ศิลปะการบริหาร แต่คือการแสดงสดกลางโต๊ะอาหาร ที่คนดูไม่มีตั๋ว แต่ถูกหักภาษี
ข่าวลือที่เคยปลิวอยู่ในอากาศ ตอนนี้ถูกเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มสไตล์บ้านเนวิน เมื่อจิตรา หมีทอง ทีมงานคนสนิทของสันติ ถูกแต่งตั้งอย่างสวยหรูให้เป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ในนามของอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่พ่อบ้านแห่งกระทรวงมหาดไทย
อ่านตรงนี้ไม่ต้องแปล ความหมายคือ สะพานไม้ไผ่ถูกปูจนเรียบ รอเพียงให้คาราวาน ส.ส. เพชรบูรณ์เดินข้ามมา
หก ส.ส. เพชรบูรณ์ จากพลังประชารัฐ กำลังถอดเสื้อรอรับโลโก้ใหม่สีน้ำเงิน
ใช่ครับ คนการเมืองไม่ได้ย้ายเพราะอุดมการณ์ แต่เพราะอุณหภูมิรอบตัวมันเปลี่ยน
และเมื่อครูใหญ่บุรีรัมย์ยอมลงมากินข้าวด้วยตัวเอง นั่นไม่ใช่มื้อธรรมดา แต่มันคือ “สัญญาณ”
มื้อหนึ่งเปลี่ยนชีวิตนักการเมืองได้มากกว่าหาเสียงทั้งปี
เพราะ “น้ำลาย” ของคนโตในพรรค มักมีฤทธิ์มากกว่าหมึกในกฎหมาย
ใครจะไปคิดว่าพรรคใหญ่ที่เคยแน่นแฟ้น จะปล่อยให้ลูกหาบหลุดรอดออกไปเป็นพรวนแบบนี้ หรือจริงๆ แล้วนี่คือการผลักให้ไป
เมื่อพรรคหนึ่งกำลังบวม อีกพรรคก็ต้องระบาย
จังหวะที่พลังประชารัฐดูเหมือนกำลังปรับโครงสร้างอย่างเงียบๆ ภูมิใจไทยกลับเดินเกมเร็วราวกับอ่านเกมทะลุทุกหน้า
นี่ไม่ใช่การย้ายพรรค แต่มันคือการแย่งหายใจกันกลางสภา
และอย่าเผลอคิดว่านี่แค่เรื่องเล็ก เพราะ 6 เสียงของเพชรบูรณ์ คือฐานเสียงระดับภาค หากไปซบภูมิใจไทยจริง ผลกระทบจะสะเทือนไปถึงกระทรวงที่หลายพรรคยังแอบหมายตา
ข้อสังเกต
- เนวิน ไม่ได้ร่วมทุกวงกินข้าว แต่มื้อนี้ต้องมีนัย
- อนุทิน ขยับอย่างเงียบ แต่มาเป็นขั้นเป็นตอน
- สันติ คือนักเล่นเชิงลึกที่กลับมาบนกระดานใหญ่
- หก ส.ส. คือหมากที่ถูกยื่นให้แลกกับพลังอำนาจถ่วงดุลในรัฐบาล
ถ้าเปรียบการเมืองเป็นต้มยำ มื้อนี้ก็คงเป็นต้มยำที่ไม่ได้ใส่มะนาว แต่บีบหัวใจประชาชนแทน
แล้วใครคือผู้เสียหายที่สุดในเรื่องนี้?
ไม่ใช่พรรค ไม่ใช่นักการเมือง
แต่คือประชาชนที่เลือก ส.ส. ด้วยความหวัง แต่กลับถูกส่งต่อด้วยมื้อน้ำปลาร้าสูตรเฉพาะที่ไม่มีในนโยบาย
สุดท้าย
ใครว่ามะขามหวานมีแต่ในเพชรบูรณ์
ในสนามการเมือง มันหวานจนขื่น และคนที่ต้องกลืนคือเรา
