เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2568 (2025) นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เรียกประชุมด่วนหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและรัฐมนตรีในพรรคเพื่อไทยที่ทำเนียบรัฐบาล ภายในวันเดียวกัน เพื่อตกลงแนวทาง การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จุดศูนย์กลางคือการควบกระทรวงมหาดไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยต้องการยึดโควตา พร้อมเจรจาโยกตำแหน่งพรรคภูมิใจไทยและพรรคร่วมอื่น การปรับครม.คาดเสร็จสิ้นภายใน 24 ชั่วโมง
กระทรวงมหาดไทยคือจุดยุทธศาสตร์
นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร มองว่าการดึงกระทรวงมหาดไทยมาบริหารเองนั้นจะช่วยเสริมอำนาจควบคุมโครงข่ายราชการทั่วประเทศ โดยเตรียมเจรจากับนาย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อเสนอแลกตำแหน่งกระทรวงพาณิชย์และรองนายกฯ
นายกรัฐมมนตรี ยังชี้ว่า ทุกโควตาพรรคร่วมจะได้รับความเคารพ เธอไม่ต้องการให้การปรับตำแหน่งทำให้พันธมิตรภายในรัฐบาลแตกคอกัน ทั้งนี้การประชุมเฉพาะพรรคเพื่อไทยช่วงบ่ายวันนี้เน้นเสถียรภาพและสร้างเงื่อนไขในการผลักดันนโยบายผ่านรัฐบาล
สงครามข่าวลือ?
สื่อและสังคมจับตาการเรียก “หัวหน้าพรรคร่วม” มาพบตัวต่อตัว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ตอบกับนักข่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ไม่ปฏิเสธข่าวการปรับครม. และได้เดินทางออกจากโรงแรม ดิ แอทธินี เวลา 12.20 น. โดยไม่มีการให้ข้อมูลใดๆ กับสื่อ

ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีแพทองธารเคยกล่าวว่าจะไม่ปรับครม.หากยังไม่พร้อม แต่แรงกดดันจากทั้ง พรรคเพื่อไทย และกระแสจาก พรรคภูมิใจไทย ทำให้ถึงเวลาที่ต้องเคลื่อนไหวแล้ว
ทิศทางหลังปรับครม. จะบ่งชี้เสถียรภาพรัฐบาล
หากกระทรวงมหาดไทยเข้าสู่การควบของเพื่อไทย ช่วยเพิ่มอำนาจในการบริหารภายในประเทศของ แพทองธาร และลดอำนาจของพันธมิตรอื่น แม้จะเกิดแรงต้านจากนายอนุทิน และบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล ถึงแม้จะมีการเสนอแลกตำแหน่งพาณิชย์–เกษตรเป็นเครื่องมือประณีประนอม เพื่อรักษาการทำงานของรัฐบาลผสมไม่ให้แตก
แต่การปรับครม.ครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของรัฐบาลแพทองธาร และชี้ชะตาว่าจะสามารถทำงานต่อได้เต็มที่ หรือเกิดความขัดแย้งภายในซึ่งอาจจะหนัหหนาถึงขั้นรัฐบาลแพทองธารนั้น อาจอยู่ได้ไม่ครบวาระ