หลังเข้ารับตำแหน่งในฐานะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ภูมิธรรม เวชยชัย ได้เริ่มปรับโครงสร้างภายในกระทรวงทันที โดยเสนอให้ คณะรัฐมนตรี เห็นชอบโยกย้ายอธิบดี 2 กรมใหญ่ พร้อมแต่งตั้งอธิบดีใหม่เข้าดำรงตำแหน่ง นับเป็น “ภารกิจแรก” ที่เจ้าตัวยืนยันว่าเป็นแนวทางจัดระบบราชการ เน้นประสิทธิภาพ ไม่ได้จ้องเล่นงาน “สายน้ำเงิน”
โยกย้ายอธิบดีระดับสูง เปิดผลักดันนโยบายยาเสพติด
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแต่งตั้งให้อธิบดีกรมการปกครองและอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 2 ราย คือ “ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์” และ “นฤชา โฆษาศิวิไลซ์” ถูกโยกไปเป็นผู้ตรวจราชการ จากนั้นแต่งตั้ง “นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร” และ “ภพชนก ชลานุเคราะห์” รับตำแหน่งแทน
นายภูมิธรรมชี้แจงว่า การโยกย้ายนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ “สายสีน้ำเงิน” หรือความใกล้ชิดกับรัฐมนตรีคนก่อน แต่เป็นการปรับเพื่อเร่งกระบวนการทำงานโดยเฉพาะเรื่องสำคัญ เช่น การปราบปรามยาเสพติดตามยุทธศาสตร์ “Seal Stop Safe”
เขายังเน้นว่า การโยกย้ายสามารถเกิดขึ้นได้ทันทีเมื่อพบว่าใครไม่ทำตามนโยบาย และการประเมินจะไม่รอครบ 3 เดือนแค่สัปดาห์แรกก็สามารถดำเนินการได้

โยกย้ายข้าราชการ ไม่เกี่ยวกับการเมืองจริงหรือ?
การเคลื่อนไหวของ รมต.ภูมิธรรม ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการ “ล้างบางสายน้ำเงิน” หรือกลุ่มอำนาจเก่าของบุรีรัมย์ ที่เข้ามาใน ครม.ชุดก่อนหน้านี้ และอาจถูกโยกเพื่อเปิดทางสู่กลไกใหม่ของรัฐบาลชุดนี้
อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรมยืนยันว่าการปรับเปลี่ยนตำแหน่งในกระทรวงครั้งนี้ไม่ได้สื่อถึงการเตรียมการเลือกตั้ง แต่เป็นการทำเพื่อรีเซ็ตระบบราชการให้มีประสิทธิภาพ ภารกิจเบื้องต้นของตนเองในฐานะรัฐมนตรีคนใหม่คือการเดินหน้าตามนโยบายรัฐบาล ทั้งการปราบปรามยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล และการจัดระเบียบราชการท้องถิ่นโดยตรง โดยคาดว่าจะยังมีการโยกย้ายต่อเนื่อง ทั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงและอธิบดีกรมที่ดิน
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก็ยังเป็นอีกครั้งที่กระบวนการตรวจสอบและการตัดสินใจในระบบราชการไทยถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและความเป็นกลางของกระทรวงมหาดไทยในการบริหารจัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่มักจะถูกปรับเปลี่ยนตามผู้มีอำนาจทางการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดต่อไป