ป.ป.ช.มติเอกฉันท์ไต่สวน “นายกฯอิ๊งค์” ปมคลิปเสียงคุย ฮุนเซน

วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์แต่งตั้งองค์คณะไต่สวนกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาว่า ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยให้ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช. และ นายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน

กรณีคลิปเสียงดังกล่าวสร้างความขัดแย้งในสังคมถึงความเหมาะสมของการบริหารประเทศ และการใช้ถ้อยคำระหว่างผู้นำของสองประเทศส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์นายกรัฐมนตรี ซึ่ง ป.ป.ช. จึงเล็งเห็นว่าอาจเข้าข่าย ผิดจริยธรรมร้ายแรง ที่ต้องมีการไต่สวนอย่างเป็นทางการ ถือเป็นความชัดเจนในการใช้มาตรการทางกฎหมายกับกรณีผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 นาย มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้นำเรื่องเสนอ ป.ป.ช. จากสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่ง ป.ป.ช. ได้รับเรื่องและดำเนินการตั้งองค์คณะไต่สวนทันที

องค์คณะไต่สวนอะไรบ้าง?

องค์คณะไต่สวนครั้งนี้มี นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ในฐานะประธาน ป.ป.ช. และ นายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. เข้าร่วมดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 51 ว่าด้วยกรณีข้อเท็จจริงที่มีผลกระทบกว้างขวางหรือเกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญ

คณะฯ มีอำนาจตั้งพนักงานไต่สวนหรือเจ้าหน้าที่สนับสนุน เพื่อตรวจสอบหลักฐาน เช่น คลิป เทปคำพูด ผู้เกี่ยวข้อง และจัดทำรายงานภายในกรอบเวลาที่กำหนด เช่น 10 วันแรก นับตั้งแต่รับเรื่อง

หลังจากนี้ ป.ป.ช. จะดำเนินการสอบสวนโดยเปิดโอกาสให้นายกรัฐมนตรีชี้แจง ในกรณีที่พบมีมูล จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ และอาจส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาชี้มูลต่อไป ทั้งนี้ยังไม่มีการสรุปผลขั้นสุดท้ายในขณะนี้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่การเมืองไทยกำลังตึงเครียด และมีความกังวลว่าการตั้งคณะไต่สวนอาจถูกตีความว่าเป็นเครื่องมือทางการเมือง ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนย้ำว่า ขั้นตอนของ ป.ป.ช. ต้องเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล มีความรอบคอบ และเป็นกลาง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือความไว้ใจของประชาชน

รัฐเร่งผลักดันกฎหมายลงโทษ “พระ–สีกา” หลังกรณีฉาว “สีกากอล์ฟ”

ไผ่ ลิกค์ ปะทะ ไอซ์ รักชนก ต่างวิธี ตีกันแหลก