วันนี้ (1 กันยายน 2568) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเจรจากับ พรรคประชาชน เพื่อขอเสียงสนับสนุนโหวต ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 โดยย้ำว่าพรรคเพื่อไทยเคยโหวตให้นายพิธาเต็มที่ทั้งสองครั้ง แต่ไม่อาจจัดตั้งรัฐบาลได้เพราะขาดเสียง ส.ว. พร้อมขอให้ทุกฝ่ายลืมความบาดหมางในอดีต และหันมาร่วมมือกันเพื่อหาทางออกประเทศ
เพื่อไทยย้ำโหวตพิธาครั้งก่อน แต่ติดปัญหาเสียง ส.ว.
ภูมิธรรม เวชยชัย ระบุว่า ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ได้ทำตามข้อตกลงทางการเมืองอย่างเคร่งครัด โดยการเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งสองครั้งก็เป็นคนของเพื่อไทยที่เสนอชื่อ และทุกเสียงของเพื่อไทยโหวตให้พิธา แต่กระบวนการล้มเหลวเพราะวุฒิสภาไม่ยอมโหวตสนับสนุน
เขาชี้ว่า พรรคก้าวไกลเคยขอเวลาอีก 10 เดือนเพื่อรอให้วุฒิสภาหมดวาระ แต่สถานการณ์ขณะนั้นไม่อาจรอได้ ประเทศต้องการรัฐบาลที่เดินหน้าแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
ขอพรรคประชาชนร่วมมือ หวั่นประเทศไร้เสถียรภาพ
รองนายกฯ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นข้อเสนอให้พรรคประชาชนพิจารณาแล้ว เหลือเพียงการรอตัดสินใจ หากยังยึดติดกับความขัดแย้งเก่า จะส่งผลเสียต่อประเทศ เพราะจะทำให้ฝ่ายค้านรวมเสียงได้มากถึง 360 เสียง ขณะที่รัฐบาลมีเพียง 143 เสียง ซึ่งย่อมกระทบความเชื่อมั่นจากต่างชาติ
ภูมิธรรมย้ำว่า หากพรรคประชาชนเลือกหนุน พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทยก็ยังมีกระบวนการตามรัฐธรรมนูญที่จะหาทางออก แต่ไม่ขอระบุชัดเจนว่าจะยุบสภาหรือไม่

ย้ำหานายกฯ ใหม่โดยเร็ว หวั่นรัฐบาลกลายเป็น “เป็ดง่อย”
ภูมิธรรมยืนยันว่าการได้ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยเร็วเป็นสิ่งจำเป็น เพราะหากปล่อยสภาพเช่นนี้ไว้ จะเป็นรัฐบาลเป็ดง่อยที่ไม่สามารถผลักดันนโยบายได้ ครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่พรรคประชาชนจะต้องเลือกนายกรัฐมนตรีจากนอกพรรค หากเลือกหนุน อนุทิน ชาญวีรกูล ต้องมีหลักประกันชัดเจนว่า ประเทศชาติจะไม่เสียหายจากการตัดสินใจดังกล่าว