วันที่ 3 กันยายน 2568 การเมืองไทยเดินหน้าเข้าสู่จุดเปลี่ยน เมื่อ พรรคประชาชน แถลงมติอย่างเป็นทางการหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ตัดสินใจสนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการหารือกับสมาชิกพรรค คณะทำงานทั่วประเทศ และ ส.ส. ของพรรคอย่างรอบด้าน พร้อมวางเงื่อนไข 5 ประการที่พรรคภูมิใจไทยต้องยอมรับและประกาศต่อสาธารณชน

พรรคประชาชนเคาะมติหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ
มติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาชนมีความชัดเจนว่าจะให้การสนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ภายใต้หลักการที่เน้นการคืนอำนาจให้ประชาชนและการป้องกันอำนาจนอกระบบไม่ให้เข้ามาแทรกแซงการเมือง
ผู้นำพรรคประชาชนยืนยันว่ามติครั้งนี้เกิดจากการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยให้ความสำคัญกับเสียงสะท้อนจากทุกระดับในพรรค ทั้งจากสมาชิก คณะทำงานในภูมิภาค และ ส.ส. ที่เป็นตัวแทนของประชาชนในสภา
เงื่อนไข 5 ข้อที่ต้องทำตาม
พรรคประชาชนระบุชัดว่ามติดังกล่าวจะมีผลสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยลงนามในข้อตกลงร่วมกันและประกาศต่อสาธารณชน โดยมี 5 เงื่อนไขหลัก ได้แก่
- ยุบสภาภายใน 4 เดือน หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อเปิดทางสู่การเลือกตั้งใหม่
- จัดทำประชามติหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าจำเป็น เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และต้องดำเนินการก่อนวันเลือกตั้ง
- เร่งผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญหากไม่ต้องทำประชามติ โดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาจากการเลือกตั้ง และเสร็จสิ้นในวาระสภาชุดปัจจุบัน
- หลักประกันการยุบสภา พรรคภูมิใจไทยต้องไม่พยายามสร้างรัฐบาลเสียงข้างมากเพื่อเลี่ยงการยุบสภาตามที่ตกลงไว้
- สถานะฝ่ายค้านของพรรคประชาชน ยังคงเดิม พรรคจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่ส่งบุคคลใดเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี แต่จะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้น

ยืนยันเป้าหมายเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน
หัวหน้าพรรคประชาชนชี้แจงว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของพรรค แต่เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน โดยมีเป้าหมายสำคัญ 4 ประการ คือ นำประเทศไปสู่ทางออกตามวิถีประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ป้องกันการแทรกแซงของอำนาจนอกระบบ ปลดล็อกกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และคืนอำนาจให้ประชาชนผ่านการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด