“ไอซ์ รักชนก” ย้ำพรรคประชาชนไม่มีดีลลับ แจงไม่ว่าเลือกทางไหน ก็ได้ “สุชาติ” อยู่ดี

“ไอซ์” รักชนก ศรีนอก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร จากพรรคประชาชน ออกมาโพสต์คลิปลงในสื่อโซเชียลมีเดีย ยืนยันว่าพรรคไม่ได้มี “ดีลลับ” กับพรรคการเมืองใด พร้อมย้ำบทบาทการเป็นฝ่ายค้านจะยังคงตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น และชี้แจงว่าปัจจัยการกลับมามีตำแหน่งทางการเมืองของ สุชาติ ชมกลิ่น ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของพรรค แต่เป็นเรื่องที่คนซึ่ง “กระหายอำนาจ” มักจะเลือกข้างผู้ชนะเสมอ

ตรวจสอบเข้มข้นแม้ถูกกดดัน

ไอซ์ รักชนก เปิดเผยว่า ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเธอต้องเผชิญแรงกดดันและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการโหวตตามมติพรรคให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม เธอยืนยันว่าประชาชนไม่จำเป็นต้องกังวลว่าพรรคประชาชนจะอ่อนแรงลงในบทบาทฝ่ายค้าน เพราะกลับกัน พรรคจะทำงานหนักยิ่งขึ้นเพื่อตอบแทนความไว้วางใจจากผู้ลงคะแนนเสียง

เธอย้ำว่า หน้าที่หลักของพรรคคือการทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มข้น เพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจและถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาล โดยมองว่านี่คือการบ้านที่พรรคต้องทำต่อเนื่องเพื่อยืนยันต่อประชาชนว่าเสียงที่ฝากไว้จะไม่ถูกนำไปแลกเปลี่ยนกับผลประโยชน์ใดๆ

ชี้ สุชาติ ชมกลิ่น ได้เป็นรัฐมนตรี ไม่ว่าฝ่ายใดชนะ

ในประเด็นที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยถึงการกลับมาของ สุชาติ ชมกลิ่น ในตำแหน่งรัฐมนตรีหลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกฯนั้น ไอซ์ รักชนก ชี้แจงว่า ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจของพรรคในทิศทางใด ไม่ว่าจะเลือกนายชัยเกษม นิติสิริ หรือ นายอนุทิน เป็นนายกฯ สุดท้าย นายสุชาติ ก็จะกลับเข้าเข้ามาเป็นรัฐมนตรีอยู่ดี เพราะเป็นบุคคลที่ “แทงข้างผู้ชนะเสมอ” ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยที่พรรคไม่สามารถควบคุมได้

สิ่งเดียวที่พรรคทำได้คือ การตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ที่ทำงานเป็นรัฐมนตรีและรัฐบาล เพื่อไม่ให้การเมืองซ้ำรอยกับความผิดพลาดในอดีต พร้อมชี้ว่าหากฝ่ายค้านไม่ทำหน้าที่อย่างเข้มงวด ย่อมถูกประชาชนตั้งคำถามถึงความจริงใจหลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

ยัน พรรคไม่มีดีลลับ

ไอซ์ รักชนก ยังกล่าวถึงการที่มีคนตั้งข้อสงสัยเรื่อง อาจจะมีดีลที่พรรคประชาชนจับมือกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อขอให้ช่วย 44 สส. หลุด คดี ม.112 แลกกับการโหวตนายกฯ โดยกล่าวว่าการที่พรรคประชาชนเปิดรับสมัครผู้สมัคร ส.ส. ใหม่ในหลายเขตเลือกตั้ง รวมถึงเขตที่ ส.ส. เดิมอาจถูกตัดสิทธิ์จากคดีทางการเมือง รวมถึงคดี ม.112 เช่น เขตของ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ หรือ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร เป็นต้น โดยชี้ว่านี่คือการยืนยันว่าพรรคไม่มีการตกลงใดๆ กับพรรคอื่น เพราะหากมีดีลลับจริง ย่อมไม่จำเป็นต้องส่งผู้สมัครใหม่ลงในเขตเหล่านั้น

โดยไอซ์ รักชนก กล่าวว่านี่เป็นการเตรียมความพร้อมและแสดงความจริงใจต่อประชาชน โดยการกระทำทั้งหมดนี้สะท้อนถึงเจตนาที่โปร่งใสและการทำงานโดยไม่แลกเปลี่ยนความหวังของประชาชนกับผลประโยชน์ทางการเมือง

ตรวจคุณสมบัติครม.อนุทิน คืบช้า ยันใช้มาตรฐานศาล รธน.กำกับเข้ม

ชูวิทย์ ไม่เห็นด้วย จำคุก “ทักษิณ” 1 ปี ชี้เพื่อไทยถึงจุดเปลี่ยน