ชูวิทย์ ไม่เห็นด้วย จำคุก “ทักษิณ” 1 ปี ชี้เพื่อไทยถึงจุดเปลี่ยน

ชูวิทย์โพสต์โซเชียล “คดีทักษิณ”

วันที่ 10 กันยายน 2568 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นต่อคำพิพากษาของ ศาลฎีกา ที่มีคำสั่งให้อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ต้องกลับไปติดคุกเป็นเวลา 1 ปี โดยไม่ถือเอาระยะเวลาที่เคยพักรักษาตัวอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ นานกว่า 6 เดือน มานับรวมเป็นการคุมขัง

นายชูวิทย์ยอมรับว่า แม้ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน แต่ก็ต้องเคารพ เพราะเป็นคำวินิจฉัยของศาลฎีกา พร้อมย้ำว่า แม้การอยู่โรงพยาบาลจะมีความสะดวกสบาย แต่ในสาระสำคัญก็ยังเป็นการถูกจำกัดเสรีภาพเช่นเดียวกับการอยู่ในเรือนจำ

มุมมองจาก “คนคุก” ต่อเสรีภาพที่ถูกพรากไป

นายชูวิทย์ ซึ่งเคยผ่านประสบการณ์ติดคุกมาก่อน ระบุว่า สำหรับคนที่ไม่เคยต้องโทษ อาจมองว่าโทษจำคุก 1 ปีเป็นระยะเวลาไม่นาน แต่สำหรับผู้ที่ถูกจำกัดเสรีภาพ แม้เพียง 1 วันก็ยาวนานมากกว่าชีวิตข้างนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทักษิณ ที่มีอายุถึง 76 ปี การถูกตัดสินให้กลับไปอยู่ในเรือนจำ จึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของชีวิต

เขายังกล่าวถึงประสบการณ์ส่วนตัวว่า แม้ตนเองเคยถูกควบคุมตัวในโรงพักเพียง 3 วัน ทางราชทัณฑ์ยังนับเป็นวันคุมขังเพื่อตัดโทษ แต่กรณีทักษิณกลับไม่ถูกนับ ถือว่าเป็น “การติดคุกฟรี” ซึ่งสะท้อนถึงความไม่สมดุลในระบบยุติธรรม

การเมืองพลิกผัน พรรคเพื่อไทยเจอจุดเปลี่ยน

นายชูวิทย์ยังวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง โดยชี้ว่าในช่วงเวลาเดียวกันที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี อดีตนายกฯ ทักษิณ กลับต้องเข้าสู่เรือนจำ ถือเป็นการพลิกวิกฤตที่สำคัญของพรรคเพื่อไทย

เขายังวิจารณ์การทำงานของพรรคประชาชนว่า “ป้อแป้กับอุดมการณ์ที่กลับไปกลับมา” รวมถึงตั้งคำถามต่อการโหวตที่เรียกว่า “ประหลาด” คือ การเป็นฝ่ายค้าน แต่กลับโหวตสนับสนุนให้มีรัฐบาลเพื่อยุบสภา ในขณะเดียวกัน พรรคภูมิใจไทยก็ถูกมองว่าไม่มีจุดขายทางการเมืองชัดเจน

นายชูวิทย์เชื่อว่า การติดคุกของทักษิณอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการเมืองไทย เพราะสังคมไทยไม่ชอบเห็นใครถูกรังแก และอาจทำให้เกิดแรงหนุนทางการเมืองในอนาคตที่คาดไม่ถึง

“ไอซ์ รักชนก” ย้ำพรรคประชาชนไม่มีดีลลับ แจงไม่ว่าเลือกทางไหน ก็ได้ “สุชาติ” อยู่ดี

ประท้วงเนปาลลามหนัก! เริ่มจากแบนโซเชียล สู่เผาสภาฯ