วันที่ 16 กันยายน 2568 ความเคลื่อนไหวภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่อแววแตกหัก เมื่อกลุ่มการเมืองที่นำโดย นายชุมพล จุลใส หรือ “ลูกหมี” เตรียมย้ายขั้วไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทย ภายหลัง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ยืนยันไม่ปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรคตามข้อเสนอของสมาชิกบางส่วน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันหลังการโหวตเลือก นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี และกำลังถูกจับตาจากสังคมการเมืองถึงท่าทีของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค
แตกเป็นสามกลุ่มหลังโหวตนายกฯ
หลังการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี พรรค รทสช. ปรากฏการแบ่งแยกชัดเจนออกเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกนำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลือกงดออกเสียง กลุ่มที่สองคือ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โหวตสนับสนุนนายอนุทินเพื่อรักษาจุดยืนทางการเมืองแบบอนุรักษนิยมโดยไม่แลกตำแหน่ง ขณะที่กลุ่มที่สามซึ่งนำโดย นายสุชาติ ชมกลิ่น อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลือกสนับสนุนนายอนุทินอย่างชัดเจน พร้อมเปิดตัวเข้าร่วมรัฐบาล
บรรยากาศดังกล่าวสะท้อนความไม่เป็นเอกภาพภายในพรรค แม้ยังไม่มีการแยกตัวอย่างเป็นทางการ แต่ความแตกต่างในท่าทีของแกนนำหลักยิ่งทำให้กระแสข่าวเรื่องการย้ายพรรคทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

ข้อเสนอปรับโครงสร้างพรรคถูกปฏิเสธ
แหล่งข่าวภายในระบุว่า มีการหารือหลายครั้งเพื่อเสนอให้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อให้การทำงานคล่องตัวและทันต่อสถานการณ์การเมือง อย่างไรก็ตาม กลุ่มของนายพีระพันธุ์ ซึ่งถือครองเสียงข้างมากใน กก.บห. ยืนยันไม่เห็นด้วย พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าพรรคยังคงมีฐานคะแนนนิยมเพียงพอที่จะเดินหน้าตามแนวทางเดิม
การยืนกรานดังกล่าวถูกมองว่าเป็นชนวนสำคัญที่ผลักดันให้หลายกลุ่มเริ่มแสดงความไม่พอใจ และนำไปสู่กระแสการเคลื่อนไหวของ “ก๊วนชุมพร” ที่ตัดสินใจหาทางเลือกใหม่ทางการเมือง
“ก๊วนชุมพร” เตรียมเปิดตัวกับภูมิใจไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในวันที่ 17 กันยายนนี้ นายชุมพล จุลใส หรือที่รู้จักกันในนาม “ลูกหมี” จะนำทีม “ก๊วนชุมพร” เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยอย่างเป็นทางการ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความไม่พอใจต่อการบริหารจัดการพรรคของนายพีระพันธุ์ และเป็นสัญญาณชัดเจนว่าความขัดแย้งภายในรทสช. กำลังขยายวงกว้าง
แม้จะยังไม่มีการประกาศชัดเจนจาก นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ว่าจะเลือกอยู่ต่อหรือไม่ แต่ความใกล้ชิดระหว่างเขากับนายชุมพลทำให้หลายฝ่ายจับตามองว่า การตัดสินใจของก๊วนชุมพรอาจส่งผลต่อทิศทางการเมืองของพรรคในอนาคตอันใกล้
จับตาท่าทีเอกนัฏชี้อนาคตพรรค
ประเด็นสำคัญที่ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามคือท่าทีของนายเอกนัฏ หากเขาเลือกที่จะเดินตามเส้นทางเดียวกับก๊วนชุมพร อาจส่งผลให้พรรค รทสช. สูญเสียกำลังสำคัญและเสื่อมถอยทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ แต่หากเลือกที่จะอยู่ต่อ ก็อาจช่วยประคับประคองพรรคให้อยู่รอดได้ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้
นักวิเคราะห์มองว่า การเคลื่อนไหวของก๊วนชุมพรสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายของพรรคการเมืองใหม่ที่ยังไม่สามารถสร้างเอกภาพภายในได้อย่างมั่นคง ขณะเดียวกันก็เป็นสัญญาณว่าพรรคภูมิใจไทยยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักการเมืองจากหลายฝ่ายเข้ามาเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง