วันที่ 16 กันยายน 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ และองค์กรอัยการ เรียกร้องให้ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีชุดใหม่อย่างเข้มงวดและเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อสร้างความโปร่งใสและป้องกันปัญหา “ครม.เต้าหู้ยี้” พร้อมเสนอให้นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล มอบหมาย นายณัฐพงษ์ เท้ง หัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งทำหน้าที่เป็น “นั่งร้าน” สนับสนุนรัฐบาล ช่วยกลั่นกรองคุณสมบัติ ก่อนเสนอรายชื่อเข้าสู่กระบวนการแต่งตั้ง ขณะเดียวกัน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ แสดงท่าทีไม่คาดหวังกับรัฐบาลอนุทิน โดยโยนให้เป็นเรื่องระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย

จิรายุ จี้ตรวจคุณสมบัติรัฐมนตรีทุกด้าน

นายจิรายุเน้นย้ำว่า สลค. ต้องยึดมาตรการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มข้นเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งใช้เวลากว่า 30 วันในการตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจาก 14 หน่วยงาน เพื่อให้การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีเป็นไปอย่างรอบคอบ และไม่เกิดข้อครหาสังคม

เขายังระบุด้วยว่า รัฐบาลใหม่ไม่ควรปล่อยให้การแต่งตั้งเป็นไปอย่างหละหลวม พร้อมเตือนว่า “รัฐบาลชุดนี้ต้องไม่เต้าหู้ยี้” เพื่อรักษาความเชื่อมั่นจากประชาชน ซึ่งขณะนี้เริ่มตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการทำงานของรัฐบาลอนุทิน

เสนอพรรคประชาชนร่วมกลั่นกรองรายชื่อ

อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้กลไกพรรคประชาชน ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการโหวตสนับสนุนรัฐบาลครั้งนี้ มาร่วมตรวจสอบคุณสมบัติของคณะรัฐมนตรี เพื่อสร้างความโปร่งใสและเพิ่มความเชื่อมั่นต่อกระบวนการสรรหา

นายจิรายุชี้ว่า พรรคประชาชนควรมีส่วนรับผิดชอบในฐานะ “นั่งร้านน้ำเงิน” ที่ช่วยค้ำจุนรัฐบาล และควรแสดงบทบาทอย่างจริงจังในการตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ความตั้งใจทางการเมืองที่ชัดเจนต่อสาธารณะ

“อนุสรณ์” ไม่คาดหวังรัฐบาลอนุทิน

ในอีกด้านหนึ่ง นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ได้แสดงท่าทีที่ต่างออกไป โดยกล่าวว่า ไม่ได้มีความคาดหวังใด ๆ ต่อรัฐบาลอนุทิน และเห็นว่าความสัมพันธ์ทางการเมืองครั้งนี้เป็นเรื่องระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น

ท่าทีของนายอนุสรณ์สะท้อนถึงความระมัดระวังของพรรคประชาธิปัตย์ต่อรัฐบาลชุดใหม่ และชี้ให้เห็นว่าการเมืองในปัจจุบันยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งในมิติความร่วมมือและการแข่งขันทางการเมือง

จับตากระบวนการตรวจสอบและการเมืองในอนาคต

ประเด็นการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีชุดใหม่จึงถูกมองว่าเป็นบททดสอบสำคัญของรัฐบาลอนุทิน หากสามารถดำเนินการอย่างโปร่งใส จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในสายตาประชาชนได้ แต่หากละเลย อาจกลายเป็นจุดอ่อนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในอนาคต

ขณะเดียวกัน ท่าทีที่ไม่คาดหวังจากฝ่ายค้านบางส่วน อาจส่งผลต่อทิศทางการเมืองในสภา และกลายเป็นแรงกดดันต่อรัฐบาลในการแสดงความจริงใจและความชัดเจนต่อการบริหารประเทศ