นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยผ่านการไลฟ์สดทางเพจเฟซบุ๊กของพรรค เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 กันยายน 2568 ว่า สาเหตุที่ไม่ลงคะแนนเสียงสนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในการโหวตนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา เป็นเพราะเห็นว่ากระบวนการจัดตั้งรัฐบาลมีลักษณะไม่ถูกต้อง เสี่ยงต่อการเป็น “เบี้ยล่าง” ของพรรคการเมืองบางพรรค พร้อมยืนยันเดินหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติต่อ และไม่ยอมรับวิธีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการเมือง

เหตุผลที่ไม่โหวตอนุทิน

นายพีระพันธุ์ ระบุว่า การดึงพรรคการเมืองที่มีแนวคิดตรงข้ามกับพรรครวมไทยสร้างชาติ มาสนับสนุนรัฐบาลโดยไม่เข้าร่วมอย่างเป็นทางการนั้น ถือเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่ผิดกฎหมายพรรคการเมือง และทำให้รัฐบาลอยู่ภายใต้อิทธิพลของพรรคที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลอย่างแท้จริง เขาจึงไม่สามารถลงคะแนนเสียงให้นายอนุทินได้ แม้ส่วนตัวจะให้ความเคารพและเห็นว่าเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมก็ตาม

ทั้งนี้ เขาย้ำว่าจุดยืนดังกล่าวไม่ใช่การปฏิเสธตัวบุคคล แต่เป็นการไม่เห็นด้วยกับ “วิธีการ” ที่จะนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลในลักษณะดังกล่าว ซึ่งขัดต่อหลักการทางการเมืองที่ควรมีศักดิ์ศรีและความชอบธรรม

การบริหารจัดการภายในพรรค

หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากวันโหวต มีการหารือกับกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยพบว่ามีหลายเสียงที่เห็นสอดคล้องกับตน และบางส่วนต้องการให้เป็นเอกสิทธิ์ในการตัดสินใจโหวต เขายอมรับว่ามีความเห็นที่แตกต่างกัน แต่เพื่อไม่ให้เกิดรอยร้าวภายใน จึงเปิดโอกาสให้ ส.ส. ตัดสินใจตามความเห็นส่วนบุคคล

นอกจากนี้ เขายังปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่าพรรคถูก “ซื้อเสียง” หรือมีการผลักดันตนเองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่มีการหารือเรื่องดังกล่าวภายในพรรคแต่อย่างใด

ยืนยันไม่หวังตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายพีระพันธุ์ กล่าวย้ำถึงกระแสข่าวที่มีการโจมตีว่า ตนเองมีความต้องการจะเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีการหารือเรื่องเสนอชื่อตนเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีภายในพรรค เพราะหากพรรคมีแคนดิเดตอยู่แล้ว แต่กลับไปดึงชื่อบุคคลจากพรรคอื่นมาแทน จะสร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือทางการเมืองอย่างร้ายแรง

เขายืนยันว่า หากวันหนึ่งจะได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจริงๆ ต้องเป็นไปอย่างมีศักดิ์ศรีและอยู่บนวิธีการที่ถูกต้อง ไม่ใช่ด้วยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์หรือต่อรองทางการเมือง เพราะแนวทางดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่พรรคการเมืองควรยึดถือ

สำหรับแนวทางการทำงานในอนาคต นายพีระพันธุ์ย้ำว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่ท้อถอยต่ออุปสรรคทางการเมือง แต่จะเดินหน้าสู้เพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะด้านพลังงานและความเป็นธรรมในสังคม พร้อมเชิญชวนผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกันมาร่วมทำงานเพื่อบ้านเมือง