นายกฯ ให้อำนาจทหารเต็มที่ คุมชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำห่วงความปลอดภัยชาวบ้าน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ย้ำว่ามอบอำนาจให้กองทัพดำเนินการอย่างเต็มที่ในการปกป้องชายแดนไทย–กัมพูชา หลังเกิดเหตุทหารกัมพูชายิงปืนเล็กเข้ามาในเขตอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยยอมรับว่ากังวลใจและเป็นห่วงประชาชน พร้อมสั่งการให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่เร่งดูแลความปลอดภัย ขณะที่ยังไม่สามารถสั่งการโดยตรงได้เพราะต้องรอแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาก่อน

มอบอำนาจกองทัพรับมือสถานการณ์ชายแดน

นายอนุทิน เปิดเผยว่าหลังได้รับรายงานจากกองทัพบกถึงเหตุทหารกัมพูชายิงปืนเล็กยั่วยุเข้ามาในเขตแดนไทย ได้กำหนดแนวทางให้กองทัพดำเนินการได้เต็มที่เพื่อป้องกันเหตุบานปลาย แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถออกคำสั่งใด ๆ ได้อย่างเป็นทางการ เนื่องจากต้องรอการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า การบริหารจัดการในขณะนี้ทำได้เพียงการประสานงานและกำหนดกรอบแนวคิดเบื้องต้น พร้อมย้ำว่าเมื่อรัฐบาลเริ่มทำงานเต็มรูปแบบ จะสนับสนุนการปฏิบัติการของกองทัพทุกด้านเพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ

ห่วงชาวบ้าน เตรียมพร้อมรับเหตุฉุกเฉิน

เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ในการปะทะรอบใหม่ นายอนุทิน ยอมรับว่ากังวลใจอยู่ตลอดเวลา จึงได้หารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้นำเรื่องการจัดหาที่หลบภัยและแผนการรับมือประชาชนในพื้นที่ชายแดนมาเป็นเรื่องเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความพร้อมหากสถานการณ์ลุกลาม

นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด และให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะระหว่างทหารทั้งสองฝ่าย

รอแถลงนโยบายก่อนสั่งการเต็มรูปแบบ

ต่อคำถามว่าหากกองทัพประเมินว่าเป็นการรุกล้ำอธิปไตยไทย จะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ นายอนุทิน ปฏิเสธที่จะตอบโดยตรง โดยระบุว่า “เดี๋ยวค่อยมาถาม” สะท้อนว่าการสั่งการเชิงนโยบายจำเป็นต้องรอความชัดเจนหลังการแถลงนโยบายรัฐบาล

เขาย้ำว่าทหารสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามความเหมาะสมในสถานการณ์เฉพาะหน้า และหากต้องการการสนับสนุนเพิ่มเติม เมื่อรัฐบาลเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการแล้ว จะพร้อมให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่

กำชับ ส.ส. เร่งสร้างความมั่นใจให้ประชาชน

สำหรับประชาชนในพื้นที่ที่วิตกกังวลต่อเหตุการณ์ นายอนุทิน กล่าวว่าทุกจังหวัดได้มีการกำชับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะจังหวัดศรีสะเกษ ให้เร่งประสานงานดูแลความปลอดภัยของชาวบ้าน ซึ่งถือว่าโชคดีที่พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส. อยู่จำนวนมากในพื้นที่ จึงสามารถทำงานร่วมกับฝ่ายปกครองและท้องถิ่นได้อย่างใกล้ชิด

เขาระบุว่าเป้าหมายสำคัญคือการทำให้ประชาชนรู้สึกมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลและสามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย แม้สถานการณ์ชายแดนจะยังมีความตึงเครียดก็ตาม

ส้มเน่าเฟะ!! ฝ่ายค้านตีสองหน้า ขายตัวให้น้ำเงิน

ถนนทรุดขนาดใหญ่! หน้าวชิรพยาบาล กทม. เร่งอพยพผู้ป่วยและประชาชน