การประชุม สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 เพื่อพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด ที่เสนอเข้าสู่วาระ 2 และ 3 ต้องล้มกลางคัน หลังจากองค์ประชุมไม่ครบในการลงมติ ทำให้ร่างกฎหมายที่ใช้เวลาพิจารณานานกว่า 1 ปี 8 เดือนยังไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ โดยการประชุมมี นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาคนที่สอง ทำหน้าที่ประธาน ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาชน ออกมาประท้วงยืนยันว่า การลงคะแนนไม่เป็นไปตามข้อบังคับ
องค์ประชุมไม่ครบทำร่างกฎหมายสะดุด
บรรยากาศการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดในช่วงบ่ายดำเนินไปอย่างติดขัด เมื่อสมาชิกสภาฯ แสดงตนเป็นองค์ประชุมแต่ละมาตรามีเพียงส่วนเกิน 2-3 เสียงเท่านั้น สะท้อนถึงความไม่พร้อมของฝ่ายนิติบัญญัติในการผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตประชาชนโดยตรง
จนกระทั่งถึงมาตรา 22 มีผู้มาแสดงตน 246 คน พอดีกับองค์ประชุม แต่เมื่อถึงขั้นตอนเสียบบัตรลงคะแนน กลับปรากฏว่ามีผู้ลงคะแนนเพียง 245 คน ไม่ครบตามข้อกำหนด ส่งผลให้เกิดข้อโต้เถียงและการประท้วงในห้องประชุม

ฝ่ายค้านจี้ตรวจสอบการลงคะแนน
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อจาก พรรคประชาชน ลุกขึ้นประท้วงทันที โดยชี้ว่าการลงคะแนนไม่ครบองค์ประชุม และไม่มีการลงมติด้วยวาจาเพิ่มเติมตามที่ประธานกล่าวอ้าง พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง
ภายหลังการตรวจสอบ พบว่าสมาชิกที่ถูกระบุว่า “ลงมติด้วยวาจา” ได้เสียบบัตรลงคะแนนไปแล้วจริง ทำให้ไม่สามารถนับเป็นเสียงเพิ่มได้ และส่งผลให้องค์ประชุมขาดไปในที่สุด
ปิดประชุมก่อนบ่ายสี่โมง
เมื่อข้อเท็จจริงถูกยืนยันว่าองค์ประชุมไม่ครบ นายฉลาด ขามช่วง ในฐานะประธานการประชุม ต้องสั่งปิดการประชุมในเวลา 16.00 น. ส่งผลให้การพิจารณาร่างกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่สังคมจับตา ต้องหยุดชะงักลง
ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ถือเป็นกฎหมายที่หลายฝ่ายคาดหวังว่าจะช่วยวางกรอบการบริหารจัดการปัญหามลพิษทางอากาศของประเทศได้อย่างยั่งยืน แต่กลับสะดุดกลางทางจากปัญหาความพร้อมของสภาฯ เอง